แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลภาษีอากรกลางสั่งว่าคำอุทธรณ์ของโจทก์ (ที่ถูกเป็นจำเลย) เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งหมด และคดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าหมื่นบาทจึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 25 จึงไม่รับอุทธรณ์
จำเลยทั้งสองเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าเครื่องจักรที่พิพาทเป็นส่วนควบหรือไม่ ถ้าเป็นส่วนควบจะเป็นส่วนควบที่สำคัญหรือไม่ มีลักษณะเป็นเครื่องจักรกลไกเพื่อใช้ดำเนินการอุตสาหกรรมหรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ทนายโจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 48)
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินของจำเลยที่ 1 ตามแบบแจ้งรายการประเมินภาษี ประจำปีภาษี 2530เล่มที่ 7 เลขที่ 7 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2530 เฉพาะโรงเรือนรายการที่ 1 และรายการที่ 2 และเพิกถอนคำชี้ขาดของจำเลยที่ 2 ตามใบแจ้งคำชี้ขาดของจำเลยที่ 2 เล่มที่ 9 เลขที่ 3 ลงวันที่ 10 ตุลาคม2531 เฉพาะโรงเรือนรายการที่ 1 และรายการที่ 2 กับให้จำเลยที่ 1คืนเงินจำนวน 11,073.33 บาท ให้แก่โจทก์ภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ถ้าไม่ชำระภายในกำหนดเวลาดังกล่าวก็ให้จำเลยที่ 1 เสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันครบกำหนด 3 เดือนนับจากวันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยที่ 1 จะชำระเสร็จคำขออื่นของโจทก์ให้ยกเสีย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 42 แผ่นที่ 2)
จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 43)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ว่าเครื่องจักรที่ใช้ผสมปูนของโจทก์เป็นส่วนควบกับที่ดิน และเป็นส่วนควบที่สำคัญหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย จึงให้รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้ดำเนินการต่อไป