แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า การที่ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาโดยถือว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 มิได้นำหลักประกันมาวางภายในระยะเวลาที่กำหนดนั้น จำเลยที่ 2 และที่ 3 ขอเสนอหลักประกันที่วางไว้ในชั้นอุทธรณ์เป็นหลักประกันในการขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาประกอบกับคดีมีทางชนะและโจทก์มิได้เสียหายแต่อย่างใด โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 117)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้นายไพโรจน์พลับแก้ว จำเลยที่ 1ห้างหุ้นส่วนจำกัดวงเวียนใหญ่ขนส่ง จำเลยที่ 2นายประชา แพทยานันท์ จำเลยที่ 3 ร่วมกันหรือแทนกันชำระเงิน309,245 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2527 เป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จสิ้นให้แก่นางสาวสุจิตราธาดารัตนกุล โจทก์
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ฎีกา และยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 97,112)
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ โดยได้นำหลักทรัพย์มาวางเป็นประกันและได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 79,84)
จำเลยที่ 2 ที่ 3 เคยขอทุเลาการบังคับระหว่างฎีกามาครั้งหนึ่งแล้ว ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับโดยให้จำเลยที่ 2ที่ 3 หาประกันภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด มิฉะนั้นให้ยกคำร้องวันนัดพิจารณาหลักประกันจำเลยที่ 2 ที่ 3 ไม่หาหลักประกันมาวางศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอทุเลาการบังคับ(อันดับ 106,111)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยที่ 2 ที่ 3 คนใดคนหนึ่งหรือร่วมกันหาประกันสำหรับจำนวนเงินและดอกเบี้ยที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ มีกำหนด 6 ปี มาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง
