คำสั่งคำร้องที่ 1829/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วสั่งว่า คดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับสิทธิในครอบครัว เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ จึงให้ยกคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาของจำเลย หากจำเลยประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้นำค่าขึ้นศาลมาชำระภายในกำหนด 7 วัน มิฉะนั้นจะมีคำสั่งไม่รับฎีกา
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวโดยจำเลยเห็นว่า จำเลยเป็นคนยากจนไม่มีเงินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาลในชั้นฎีกาได้ซึ่งจำเลยได้นำสืบให้ศาลชั้นต้นเห็นแล้วว่าจำเลยมีเงินเดือนเพียงเดือนละ 3,500 บาท แต่มีภาระต้องชำระหนี้เงินกู้เป็นรายเดือนเดือนละ 1,500 บาท ต้องเสียค่าเช่าบ้านเดือนละประมาณ 600 บาท จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูมารดาของจำเลยประมาณเดือนละ 700 บาท และใช้จ่ายส่วนตัวเดือนละ 700 บาทจึงไม่มีเงินเหลือพอที่จะนำมาวางเป็นค่าธรรมเนียมศาล อีกทั้งจำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดที่พอจะนำมาจำหน่ายและไม่มีญาติพี่น้องคนใดที่จะห้ความช่วยเหลือในเรื่องค่าธรรมเนียมศาลดังกล่าวได้ โปรดอนุญาตให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นฎีกาด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้านการขอฎีกาอย่างคนอนาถาของจำเลย (อันดับ 104)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูโจทก์และบุตรเดือนละ 1,000 บาท เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2527เป็นต้นไป จนกว่าบุตรโจทก์จะบรรลุนิติภาวะ
จำเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา(อันดับ 44,47)
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้องดังกล่าว (อันดับ 131)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 103)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าตามทางไต่สวน ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนถึงกับไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมชั้นฎีกา ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกาอย่างคนอนาถานั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้องฎีกาคำสั่งของจำเลยหากจำเลยยังติดใจฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ก็ให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 10 วันนับแต่วันทราบคำสั่งนี้

Share