แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าฎีกาข้อหาตามมาตรา 70 นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสองในข้อหานี้
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เห็นว่า ฎีกาข้อหาตามมาตรา 70 เป็นปัญหาข้อกฎหมายโดยเป็นเรื่องเกี่ยวพันกับมาตรา 65,67 ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาไว้ และจำเลยทั้งสองสามารถฎีกาข้อเท็จจริงได้ โดยต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 มาปรับใช้ มิใช่มาตรา 218 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 25)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 4,31,40,42,43,65,67,69,70,71ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,90,91,368 ฯลฯจำเลยที่ 1 ที่ 2 ผิดตามฟ้องรวม 3 กระทง จำเลยที่ 1 เป็นผู้ดำเนินการต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่บัญญัติสำหรับความผิดนั้น เรียงกระทงลงโทษฐานร่วมกันจัดให้มีการก่อสร้างผิดแบบแปลน จำคุกจำเลยที่ 1มีกำหนด 1 ปี ปรับ 40,000 บาท และปรับอีกวันละ 10,000 บาทจำนวน 250 วัน เป็นเงิน 2,500,000 บาท รวมปรับจำเลยที่ 1เป็นจำนวนเงิน 2,540,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือนปรับ 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 5,000 บาท รวม 250 วัน เป็นเงิน1,250,000 บาท รวมปรับ 1,270,000 บาท ฐานร่วมกันฝ่าฝืนไม่ระงับการก่อสร้าง จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี ปรับวันละ 10,000 บาทจำนวน 232 วัน รวมปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 2,320,000 บาทจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือน ปรับวันละ 5,000 บาท จำนวน232 วัน รวมปรับจำเลยที่ 2 เป็นเงิน 1,160,000 บาทฐานร่วมกันไม่รื้อถอนอาคาร จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปีปรับ 40,000 บาท และปรับอีกวันละ 10,000 บาท จำนวน 210 วันเป็นเงิน 2,100,000 บาทรวมปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน2,140,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือนปรับ 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 5,000 บาท จำนวน 210 วันเป็นเงิน 1,050,000 บาท รวมปรับจำเลยที่ 2 เป็นจำนวนเงิน1,070,000 บาทรวมจำคุกจำเลยที่ 1 ทั้งสิ้น 3 ปี ปรับ 7,000,000บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน ปรับ 3,500,000 บาทจำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน ปรับ 3,500,000 บาท จำคุก จำเลยที่ 2 เป็น 9 เดือน ปรับ 1,750,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกสำหรับจำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้รอการลงโทษคนละ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 23)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 25)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสอง 3 กระทงให้เรียงกระทงลงโทษและให้ลงโทษปรับ 10 เท่า ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 70 ด้วย เมื่อลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้วคงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน ปรับ 3,500,000 บาทจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 9 เดือน ปรับ 1,750,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้คนละ 2 ปี เห็นว่าแม้โทษจำคุกที่ลงในแต่ละกระทงความผิดจะไม่เกิน 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยฎีกาขอให้งดโทษปรับ10 เท่า ตามบทมาตราดังกล่าวข้างต้น ดังนี้ เป็นฎีกาดุลพินิจซึ่งเป็นข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 กรณีจะพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ดังที่จำเลยทั้งสองฎีกาหาได้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาข้อที่จำเลยทั้งสองขอให้งดโทษปรับ 10 เท่าชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง