แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์คำสั่งและยื่นคำร้อง ขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งอุทธรณ์ว่า กรณีไม่ใช่เป็นเรื่องกำหนด หรือคำนวณค่าฤชาธรรมเนียมไม่ถูกต้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 168 แต่เป็นเรื่องคดีมีทุนทรัพย์หรือไม่ซึ่งเป็นคำสั่ง ระหว่างพิจารณา จึงไม่รับอุทธรณ์ คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด และสั่งคำร้องว่าสั่งในอุทธรณ์คำสั่งแล้ว
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ที่ว่า โจทก์ฟ้องเรียก ส่วนแบ่งทรัพย์มรดกจากจำเลยทั้งสิบโดยขอให้ ใส่ชื่อโจทก์ร่วมกับจำเลยทั้งสิบในที่ดินพิพาท เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณ เป็นราคาเงินได้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ ฟ้องเรียกอสังหาริมทรัพย์เป็นคดีมีทุนทรัพย์ และให้โจทก์เสียค่าฤชาธรรมเนียมให้ถูกต้อง จึงเป็นกรณีการอุทธรณ์ในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมมิได้กำหนดหรือคำนวณให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 168 นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย และคำสั่ง ศาลชั้นต้นดังกล่าวไม่ใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา โจทก์จึงมีสิทธิอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ โปรดมีคำสั่งให้รับคำร้อง ขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสิบจดทะเบียนลงชื่อ โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพิพาท หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทน การแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสิบ
ในวันนัดชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้อง แล้วมีคำสั่งว่าฟ้องโจทก์ขอให้ศาลเพิกถอนการโอน ที่ดินโดยการฉ้อฉล และขอให้ใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของ กรรมสิทธิ์รวมด้วย นอกจากนี้จำเลยยังต่อสู้ กรรมสิทธิ์ จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ การที่โจทก์เสียค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ เป็นการ ไม่ถูกต้อง ให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลใหม่ให้ถูกต้อง ตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ฟ้องภายใน 15 วัน นับแต่วันนี้ มิฉะนั้นถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง และให้เลื่อน การนัดชี้สองสถาน (อันดับ 4)
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอน กระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้อง (อันดับ 5)
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง พร้อมกับยื่นคำร้องขออนุญาต ยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ดังกล่าว (อันดับ 6,7)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีนี้ไม่ต้องด้วยกรณีตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ แต่เมื่อโจทก์อุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา จึงให้ส่ง ไปศาลฎีกา (อันดับ 8)
คำสั่ง
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งให้โจทก์ซึ่งเสียค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์เสียค่าขึ้นศาลใหม่ อย่างคดีมีทุนทรัพย์ตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ฟ้อง ภายใน 15 วัน มิฉะนั้นถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 วรรคหนึ่ง แม้โจทก์จะโต้แย้งเป็นปัญหา ข้อกฎหมายว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว เป็นการที่มิได้กำหนดหรือคำนวณค่าฤชาธรรมเนียมให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 168ก็ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้น ในระหว่างพิจารณาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 วรรคหนึ่ง และเมื่อศาลชั้นต้นยังมิได้ มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีนี้ โจทก์ก็ยัง ไม่อาจอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นต่อศาลฎีกาโดยตรงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ ได้ ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ