แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสามฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาต ในวันนัดพิจารณาหลักประกันจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องว่าทนายจำเลยทั้งสามขอถอนตัวจากการเป็นทนายกะทันหัน ขอเลื่อนวันนัดพิจารณาหลักประกันศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยไม่นำหลักประกันมาวางศาลภายในกำหนดจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับและไม่มีเหตุเลื่อนคดี ให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 เห็นว่า จำเลยที่ 1 ไม่ทราบขั้นตอนการปฏิบัติในศาล ในเมื่อทนายถอนตัวจึงทำอะไรไม่ถูกและการที่ศาลสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนวันนัดพิจารณาและไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับนั้นทำให้จำเลยที่ 1 เสียหาย โปรดเพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา และให้ศาลชั้นต้นกำหนดวันนัดพิจารณาหลักประกันใหม่
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินค่าเสียหายแก่โจทก์รวมจำนวน 101,814.88 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีในต้นเงินค่าเสียหายแต่ละเดือนคิดตั้งแต่วันผิดนัดค่าเช่าซื้อแต่ละเดือน แต่ต้องไม่ก่อนวันที่ 3ตุลาคม 2527
จำเลยทั้งสามฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ(อันดับ 63,64)
ศาลฎีกาสั่งอนุญาตโดยให้จำเลยหาประกัน (อันดับ 74)
ในวันนัดพิจารณาหลักประกันจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 77,78)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยที่ 1นำส่งสำเนาคำร้องแก่โจทก์ภายใน 5 วัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลรายงานว่าเลยกำหนดเวลาแล้ว ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำนวนไปยังศาลฎีกา (อันดับ 81,85)
คำสั่ง
จำเลยทั้งสามมิได้ยื่นหลักประกันภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ทั้งในวันนัดพิจารณาหลักประกันก็ไม่มีหลักทรัพย์มาแสดงที่จำเลยทั้งสามอ้างว่าไม่ทราบขั้นตอนการปฏิบัติในศาลนั้น ฟังไม่ขึ้น ให้ยกคำร้อง