แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา คดีมีทางชนะ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 163)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 60,750 บาทให้โจทก์และชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน60,000 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จสิ้นศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา (อันดับ 129)
จำเลยได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์โดยนายสุรศักดิ์ตันสุภาว์ ผู้ค้ำประกันได้นำหลักทรัพย์คือที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 2515 ตำบลทัพหลวง อำเภอบ้านไร่จังหวัดอุทัยธานี เนื้อที่ 14 ไร่ 1 งาน 33 ตารางวามาวางเป็นประกัน และได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น(อันดับ 98,115) หลังจากจำเลยยื่นฎีกาโดยมิได้ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา ผู้ค้ำประกันขอรับหลักทรัพย์ที่ดินแปลงดังกล่าวคืน ศาลชั้นต้นอนุญาต โจทก์จึงยื่นคำร้องว่าตามหนังสือสัญญาค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดตลอดไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และโจทก์ได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาจนหมดสิ้น ขอให้อายัดที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 2515 ดังกล่าวและแจ้งคำสั่งไปยังพนักงานที่ดินอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานีห้ามมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินแปลงนี้จนกว่าโจทก์จะได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 156)
คำสั่ง
ถ้าจำเลยหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 60,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนถึงวันทราบคำสั่งนี้มาวางศาลจนเป็นที่พอใจ และภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง