แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องทั้งสองฎีกา หากศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ จะทำให้ผู้ร้องทั้งสองได้รับความเสียหาย ไม่อาจกลับสู่ฐานะเดิมได้ และมีปัญหายุ่งยากในทางทะเบียน โปรดมีคำสั่งให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์และทนายจำเลยทั้งสองต่างได้รับสำเนาคำร้องแล้ว เฉพาะโจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 103,98,106)
กรณีเป็นชั้นร้องขอให้ปล่อยทรัพย์
คดีสืบเนื่องจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เล่มที่ 3 หน้า 151 ทะเบียนเลขที่ 3 หมู่ที่ 4 ตำบลนบปริง อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงาเนื้อที่ 1 ไร่ 53.75 ตารางวา พร้อมบ้านเลขที่ 8 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นของจำเลยที่ 2 เพื่อนำขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างจำเลยที่ 2 กับผู้ร้องที่ 1 โจทก์นำยึดเฉพาะส่วนอ้างว่าเป็นของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการบังคับให้ที่ดินส่วนที่เหลือเป็นของผู้ร้องที่ 1 ซึ่งไม่ชอบด้วยกรรมสิทธิ์รวมการยึดที่ดินจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนบ้านเป็นของผู้ร้องทั้งสองปลูกในที่ดินดังกล่าวโดยได้รับความยินยอมจากจำเลยที่ 2 จึงไม่เป็นส่วนควบของที่ดิน ขอให้ถอนการยึดเฉพาะบ้านและสั่งว่าการยึดที่ดินนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องทั้งสองฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 99,98)
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทไว้ในระหว่างอุทธรณ์ (อันดับ 84)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทไว้ในระหว่างฎีกา