คำสั่งคำร้องที่ 1730/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ขอศาลฎีกาโปรดมีหมายแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดิน จังหวัดนครศรีธรรมราช ระงับการทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่พิพาท ไว้ก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุด โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันจดทะเบียนโอน กรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 42205 เลขที่ดิน 1 ตำบลนาทรายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เนื้อที่ 20 ไร่ 2 งาน 65 ตารางวาให้แก่โจทก์ หากไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสอง คำขออื่นให้ยก
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา (อันดับ 97)
โจทก์แก้ฎีกาและยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 108,107)
ศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินการส่งสำเนาคำร้องให้ จำเลยมีโอกาสคัดค้านเสียก่อน ศาลชั้นต้นหมายแจ้งให้ทนายโจทก์ จัดทำสำเนาคำร้องนี้มายื่นภายใน 7 วัน นับแต่วันรับหมาย เพื่อจัดสั่งให้จำเลยทั้งสอง หากไม่นำมายื่นถือว่าโจทก์ไม่ติดใจ คำร้อง โจทก์ไม่ได้ทำสำเนาส่งศาลภายในกำหนด ศาลชั้นต้นสั่งว่า ถือว่าโจทก์ไม่ติดใจขอคุ้มครองชั่วคราวระหว่างฎีกา ให้ส่งศาลฎีกา เพื่อพิจารณาสั่ง (อันดับ 109,110,111,113,114)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์ทำสำเนาคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างฎีกามายื่นต่อศาลภายใน 7 วัน โดยได้ส่งคำสั่งให้แก่โจทก์โดยชอบแล้ว แต่โจทก์เพิกเฉย ไม่ปฏิบัติตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด ถือว่าโจทก์ทิ้งคำร้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ประกอบด้วยมาตรา 246,247 ให้จำหน่ายคำร้องของ โจทก์

Share