แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เป็นกรณีที่ถือได้ว่าจำเลยฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ มิใช่กรณีที่จำเลยขอทุเลาการบังคับชั้นฎีกาจำเลยไม่มีสิทธิที่จะฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์ดังกล่าวได้ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2521 และ 706/2520จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า จำเลยมีสิทธิตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่จะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้มีการทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ โปรดยกคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับเป็นอนุญาตให้มีการบังคับคดีไว้ในระหว่างอุทธรณ์ และยกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่วินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำสั่งเป็นวินิจฉัยว่าจำเลยมีสิทธิจะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่สั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลย และให้จำเลยกับบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของจำเลยและบริวารออกจากที่ดินฯ พร้อมกับปรับสภาพที่ดินให้เรียบร้อย และให้จำเลยชำระค่าเสียหายเดือนละ 3,000 บาทแก่โจทก์ นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดิน
จำเลยอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่าพิเคราะห์แล้ว คดีไม่มีเหตุสมควรอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง (อันดับ 1)
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 2)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 3)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์อำนาจในการสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับ เป็นของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ จำเลยฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์กรณีนี้ไม่ได้ คำสั่งไม่รับฎีกาของศาลชั้นต้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
