แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ฎีกา มีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 162)
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ชำระค่าคำร้องมา 120 บาท
คดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยเรียกโจทก์ในสำนวนแรกซึ่งเป็นจำเลยในสำนวนหลังว่า โจทก์ เรียกจำเลยที่ 1ในสำนวนแรกกับโจทก์ที่ 2 ในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ 1 เรียกจำเลยที่ 2 ในสำนวนแรกกับโจทก์ที่ 1 ในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ 2 และเรียกจำเลยที่ 3 ในสำนวนแรกว่า จำเลยที่ 3
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ห้ามโจทก์และบริวารเข้าเกี่ยวข้อง ให้โจทก์คืนเงินค่าชดเชยที่ดินแปลงตะวันตกทางหลวง 2,020 บาทแก่จำเลย ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ขับไล่จำเลยทั้งสามและบริวารออกไปจากที่นาชื่อทุ่งนาน้อยหรือนาทุ่งบ้านส่วนของโจทก์ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 2578 ห้ามจำเลยทั้งสามเกี่ยวข้อง กับให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ปีละ 2,000 บาทนับแต่วันที่ 4 กันยายน 2523 ที่โจทก์ฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสามและบริวารจะออกจากที่ดินพิพาท ฯลฯ
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 158,157)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยทั้งสามหรือคนหนึ่งคนใด หาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระแก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นเวลา 7 ปีมาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง