แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็น ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับเหตุรอการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจาก การใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ให้เรียงกระทงลงโทษ กระทงแรก ให้ลงโทษจำคุก 2 เดือน กระทงที่สองและกระทงที่สาม จำคุก กระทงละ 1 เดือน รวมให้ลงโทษจำคุกจำเลย 4 เดือน จำเลยให้การ รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงลงโทษจำคุกจำเลย 2 เดือน
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละ 1 เดือน รวม 3 กระทง จำคุก 3 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน 15 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับ (อันดับ 79)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 86)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาล จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง