แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกา
จำเลยที่ 1 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 ในข้อ 2 ประการที่ 2 เป็นการกล่าวอ้างถึงการวินิจฉัยที่เกินขอบเขตแห่งประเด็นพิพาท ของศาลอุทธรณ์ ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันสมควรได้รับการ วินิจฉัยจากศาลสูง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาท) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2533 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระ ให้จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ค้ำประกันชำระเงินจำนวน 40,000 บาท (สี่หมื่นบาท) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2533 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งดังกล่าวเมื่อวันที่15 มิถุนายน 2536 และได้แจ้งให้จำเลยที่ 1 ทราบเมื่อวันที่24 มิถุนายน 2536(อันดับ 66,67)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีนี้ศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกาวันที่ 14 มิถุนายน 2536 ผู้ยื่นฎีกา ทราบคำสั่งศาลเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2536 แล้วยื่นคำร้อง อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาวันนี้ (วันที่ 7 กรกฎาคม 2536) พ้นกำหนด 15 วัน ให้ส่งสำนวนไปศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง (อันดับ 68)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา ของจำเลยที่ 1 ในวันที่ 14 มิถุนายน 2536 จำเลยที่ 1 ทราบคำสั่ง ศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2536 จำเลยที่ 1ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาในวันที่ 7 กรกฎาคม 2536 จึงเกินกำหนด 15 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ