แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาข้อ 2.1 เป็นปัญหาข้อกฎหมายรับเป็นฎีกาของจำเลยที่ 2 ส่วนฎีกาข้ออื่นเห็นว่าเป็นการฎีกาว่า ไม่ควรรับฟังพยานหลักฐานที่นำสืบของอีกฝ่ายหนึ่งเพราะพยานหลักฐานของผู้ฎีกาดีกว่า เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งคดีนี้ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับจำเลยที่ 2 เห็นว่า แม้ฎีกาของจำเลยที่ 2 ข้อ 2.2,2.3 และ 2.4จะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทในคดีนี้เกิน 50,000 บาท จึงไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 186)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันใช้ราคาวัวกับค่ารักษาวัว รวมเป็นเงิน 42,000 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอีกร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงิน 42,000 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาบางข้อดังกล่าว(อันดับ 170)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 179)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้มีทุนทรัพย์เกินกว่า 50,000 บาทไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงให้รับฎีกาข้อ 2.2,2.3 และ 2.4 ของจำเลยที่ 2 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป