แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้คัดค้านฎีกา มีทางที่ศาลฎีกาจะกลับหรือแก้คำสั่งของศาลอุทธรณ์ได้ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายผู้ร้องได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 77 แผ่นที่ 2)
กรณีสืบเนื่องจาก ศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย โจทก์ได้นำเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปทำการยึดทรัพย์สินต่าง ๆ รวม 7 รายการ โดยอ้างว่าเป็นทรัพย์สินของนายจักมิ้งแซ่โง้ว ลูกหนี้ (จำเลย) ผู้ล้มละลาย เพื่อขายทอดตลาด ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ทรัพย์สินทั้ง7 รายการดังกล่าวมิใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย แต่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องแต่เพียงผู้เดียว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งกลับคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และสั่งให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา โดยได้รับอนุญาตให้ฎีกาอย่างคนอนาถาพร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 72,81,71)
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้งดการปล่อยทรัพย์ที่ยึดในระหว่างอุทธรณ์ (อันดับ 56)
คำสั่ง
คำร้องของ ผู้คัดค้านพอแปลได้ว่า ผู้คัดค้านขอคุ้มครองประโยชน์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 264 พิเคราะห์แล้ว เห็นสมควรให้งดการปล่อยทรัพย์ที่ยึดไว้ระหว่างฎีกา