แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยขอให้ศาลสั่งปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกา โดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ระหว่างพิจารณา ธนาคารนครหลวงไทย จำกัดผู้เสียหาย ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264,265,268,341,91 ฯลฯ ความผิดฐานปลอมและใช้เป็นคนละกรรม แต่จำเลยเป็นทั้งผู้ปลอมและผู้ใช้ จึงต้องลงโทษตามมาตรา268 กระทงเดียว ความผิดฐานใช้เอกสารปลอมกับความผิดฐานฉ้อโกงเป็นกรรมเดียวกันให้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด คือมาตรา 268ลงโทษแก่จำเลย เห็นว่าผู้เสียหายแถลงไม่ติดใจเอาความ เพราะจำเลยยืนยันจะชดใช้ค่าเสียหายเช่นนี้ จึงเห็นสมควรลงโทษแก่จำเลยสถานเบาจำคุก 1 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือนที่จำเลยขอรอลงอาญานั้น เห็นว่าตามสภาพของความผิดยังไม่มีเหตุที่จะรอ ให้ริบเอกสารปลอมและให้จำเลยคืนเงินจำนวน 75,000 บาทแก่โจทก์ร่วม
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว โดยมีคำร้องประกอบของผู้ขอประกัน(อันดับ 40 แผ่นที่ 2,40)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราว และในชั้นอุทธรณ์ศาลชั้นต้นตีราคาประกัน 120,000 บาท (อันดับ 33)
คำสั่ง
พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุสมควรปล่อยจำเลยชั่วคราวในระหว่างฎีกา ให้ยกคำร้อง