แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา มีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 94)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน 774,856.11 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีจำนวน 386,627.64 บาท และพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 13.5 ต่อปี จากต้นเงินกู้ยืมจำนวน 174,793 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 27 ตุลาคม 2532) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จ พวกจำเลยทั้งสองไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองคือที่ดิน โฉนดเลขที่ 35, 36, 308 ตำบลขุหลุอำเภอตระการพืชผลจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินทั้งสามแปลงและห้องแถวไม้ 2 ชั้น 2 คูหา เลขที่ 194/1 ถนนเกษมสมบัติตำบลขุหลุอำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานีปลูกสร้างบนที่ดินราชพัสดุแปลงหมาย เลขทะเบียน 8069เนื้อที่ดิน 23 ตารางวา และทรัพย์สินอื่น ๆ ของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์จนครบ
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 90, 89)
ชั้นอุทธรณ์ จำเลยทั้งสองได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับโดยศาลชั้นต้นตีราคาทรัพย์สินที่จำนองแล้วเห็นว่าเพียงพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น (อันดับ 64,74)
คำสั่ง
ถ้าศาลชั้นต้นเห็นว่า ราคาทรัพย์สินที่จำนองเพียงพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับถึงวันฟังคำสั่งนี้และต่อไปอีก 2 ปี ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา หากเห็นว่าไม่เพียงพอก็ให้จำเลยทั้งสองหรือคนใดคนหนึ่งหาหลักประกันมาเพิ่มจนเป็นที่ พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง