แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ อยู่ระหว่างศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาแต่เนื่องจากโจทก์ที่ 2 ได้ถึงแก่กรรมแล้ว ปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายมรณบัตรแนบท้ายคำร้องนี้ จึงขอศาลได้โปรดมีคำสั่งเรียกนางมยุรีตรีไพศาลภักดี ในฐานะทายาทซึ่งเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ที่ 2 เข้ามาเป็นคู่ความแทนโจทก์ที่ 2 ด้วย
หมายเหตุ นางมยุรีตรีไพศาลภักดี ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 96)
โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้จำเลยเปิดทางพิพาทให้โจทก์และบริวารของโจทก์ผ่านเข้าออกที่ดินของจำเลยได้ตามปกติ หากจำเลยไม่ยอมปฏิบัติก็ให้โจทก์มีอำนาจเปิดทางพิพาทได้ด้วยตนเอง และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายนับแต่วันที่ 16 มกราคม 2526 ถึงวันฟ้อง 1,200 บาทแก่โจทก์ และค่าเสียหายวันละ 60 บาท จากวันฟ้องจนถึงวันที่จำเลยยอมเปิดทางให้โจทก์ผ่านตามเดิม
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ที่ 2 ฎีกา (อันดับ 82)
ก่อนศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 94) ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง แต่ถึงวันนัดไม่มีคู่ความฝ่ายใดมาศาล จึงให้ส่งสำนวนไปศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง โดยที่ศาลชั้นต้นยังมิได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว การที่จำเลยไม่ไปศาลในวันนัดไต่สวนคำร้องนี้ถือว่าจำเลยไม่ติดใจให้ศาลเรียกนางมยุรีตรีไพศาลภักดีเข้ามาเป็นคู่ความแทนโจทก์ที่ 2 อีกต่อไป จึงให้ยกคำร้อง ของจำเลยค่าคำร้องให้เป็นพับ