แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 3 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับ จำเลยที่ 1 ที่ 3 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 3 ในข้อ2.1 และข้อ 2.2 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยคดีโดยมิได้ฟังข้อเท็จจริงตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะพยาน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (สำนวนธุรการอันดับ 44)โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล จึงให้ประทับฟ้องระหว่างพิจารณา โจทก์ขอถอนฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 จำนวน10,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 3 ให้จำคุก 4 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 43)
จำเลยที่ 1 ที่ 3 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 44)
คำสั่ง
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 10,000 บาทจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 4 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน การที่จำเลยที่ 1 ที่ 3 ฎีกาว่าพยานบอกเล่าของโจทก์ไม่อาจรับฟังได้ว่าเช็คตามฟ้องมีการลงวันที่สั่งจ่ายไว้ และฎีกาว่าพยานบุคคลของทั้งสองฝ่ายรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ที่ 3 ออกเช็คตามฟ้องให้โจทก์ถือไว้เป็นประกันหนี้เป็นการโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 3 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง