คำสั่งคำร้องที่ 1457/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาข้อ 1,2 และ 3 เป็นฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 จึงไม่รับ
จำเลยเห็นว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นการแก้มาก จำเลยจึงมีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ทั้งข้อ 1,2 และ 3 และหากจะฟังว่าฎีกาของจำเลยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่ฎีกาของจำเลยในข้อ 3 ก็เป็นข้อกฎหมายซึ่งจำเลยได้ต่อสู้คดีมาในศาลล่างแล้ว โปรดมีคำสั่งยกคำสั่งของศาลชั้นต้นให้รับฎีกาข้อ 3 ของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 85) ส่วนโจทก์ร่วมยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน รวม 3 กระทง ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฯลฯ ลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละ 2 เดือน รวมจำคุก 6 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละ8 เดือน รวม 3 กระทง เป็นจำคุกจำเลยมีกำหนด 2 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 84)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 85)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละ2 เดือน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละ 8เดือนนั้น ศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละไม่เกิน 1 ปีจำเลยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219ฎีกาของจำเลยข้อ 3.1,3.2,3.3 ว่า จำเลยไม่มีเงินในบัญชีโจทก์ร่วมยังบีบบังคับจำเลยให้ออกเช็คตามฟ้องชำระหนี้แก่โจทก์เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และเป็นการใช้ให้จำเลยกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค จำเลยไม่มีความผิดนั้น ข้ออ้างของจำเลยดังกล่าวก็เพื่อแสดงว่าจำเลยออกเช็คตามฟ้องโดยมิได้มีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ส่วนฎีกาข้อ 3.4,3.5 ว่า จำเลยยอมชำระเงินตามเช็คที่โจทก์ฟ้องแล้วตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่ง ถือว่าเป็นการยอมความในคดีอาญาและถือว่าเป็นเหตุบรรเทาโทษซึ่งต้องลงโทษจำเลยสถานเบานั้นปัญหาว่า จำเลยตกลงยอมความในคดีส่วนอาญากับโจทก์แล้วหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนการที่ศาลลงโทษจำเลยโดยไม่พิจารณาถึงเหตุบรรเทาโทษ เป็นดุลพินิจของศาลในการลงโทษจำเลย เป็นปัญหาข้อเท็จจริงเช่นเดียวกัน ฎีกาของจำเลยทุกข้อเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้นต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share