แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ จำเลยทั้งสองได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาไว้ คดีจึงอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ยังไม่ถึงที่สุดโจทก์ทั้งสามได้รับเงินจากจำเลยทั้งสองจนเป็นที่พอใจแล้วจึงขอถอนฟ้อง โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ทนายจำเลยทั้งสองแถลงท้ายคำร้องว่าไม่คัดค้าน(อันดับ 79)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,91,341
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์มีมูล จึงมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดกรรมเดียว ให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ2 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีของศาล ลดโทษให้จำเลยทั้งสองคนละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอ้างว่าเป็นฎีกา
ในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้าม (อันดับ 76)
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 78)
โจทก์ทั้งสามยื่นคำร้องดังกล่าว โดยทนายผู้มีอำนาจถอนฟ้องเป็นผู้ลงชื่อในคำร้อง (อันดับ 79)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้เป็นคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวและยังไม่ถึงที่สุดโจทก์จะถอนฟ้องเสียเมื่อใดก็ได้ เมื่อโจทก์ทั้งสามถอนฟ้อง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) จึงให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ