แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งว่า จำเลยซึ่งเป็นผู้ขอมีที่ดิน 1 แปลงราคา 400,000 บาท จำเลยประกอบอาชีพเป็นนักหนังสือพิมพ์ มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าข่าวของหนังสือพิมพ์รวมข่าวมีเงินเดือน เดือนละ 3,000 บาท แม้ที่ดินจะถูกโจทก์ยึดไว้แล้วก็ตาม อาชีพของจำเลยก็กว้างขวางในวงสังคม ทั้งมีญาติที่พอจะหยิบยืมเงินมาเสียค่าธรรมเนียมได้ ซึ่งในชั้นไต่สวนคำร้องก็ปรากฏว่าเมื่อจำเลยถูกโจทก์ฟ้องเป็นคดีอาญา ก็มีน้องชายของจำเลยนำที่ดินมาค้ำประกันจำเลยต่อศาลได้ ดังนี้จำเลยผู้ขอจึงยังพอขวนขวายนำเงินมาเสียค่าธรรมเนียมศาลในชั้นฎีกาได้ จำเลยมิได้ยากจนจริง จึงให้ยกคำร้องของจำเลย หากจำเลยประสงค์จะดำเนินคดีชั้นฎีกาต่อไป ให้นำเงินค่าธรรมเนียมมาเสียภายใน 15 วันจำเลยเห็นว่า ในฐานะที่จำเลยเป็นนักหนังสือพิมพ์ จำเลยไม่มีเงินเดือนหรือมีรายได้ประจำ การหาข่าวเพื่อลงข่าวนั้นก็เป็นไปด้วยความลำบากได้เงินน้อยพอเลี้ยงชีพไปวันหนึ่ง ๆ เท่านั้นอีกทั้งหลักทรัพย์ที่ประกันตัวจำเลยในคดีอาญาซึ่งถูกฟ้องก็เป็นของญาติบางคนที่เห็นใจจำเลยญาติคนอื่นก็ล้วนแต่ยากจน แม้ว่าจะมีหลักทรัพย์ของญาติแต่การที่จำเลยจะไปหยิบยืมก็เป็นการลำบากทั้งไม่ทันกับเวลาที่จะต้องฎีกาในคดีนี้ และคงจะไม่มีญาติผู้ใดพอที่จะให้หยิบยืมได้ ประกอบกับทรัพย์สินของจำเลยเช่นที่ดินก็ถูกบังคับคดีแล้วโดยโจทก์คดีนี้ จำเลยจึงไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่มีเงินหรือทรัพย์สินใด ๆ พอที่จะนำมาชำระค่าธรรมเนียมศาลได้ โปรดกลับคำสั่งศาลชั้นต้นโดยให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นฎีกาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 148)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากที่ดินและตึกพิพาทตามฟ้อง โดยส่งมอบคืนให้โจทก์ในสภาพเรียบร้อย และชำระค่าเช่าที่ค้างจำนวน 25,000 บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีให้โจทก์นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และชำระค่าเสียหายให้โจทก์เดือนละ5,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2524 เป็นต้นไปพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีแก่โจทก์จนกว่าจำเลยและบริวารจะได้ขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากที่ดินและตึกพิพาท
จำเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 118,116,134)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 138)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าตามทางไต่สวนข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนถึงกับไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมชั้นฎีกา ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกาอย่างคนอนาถานั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้องฎีกาคำสั่งของจำเลย หากจำเลยยังติดใจฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ก็ให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายใน 15 วันนับแต่วันทราบคำสั่งนี้