แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า รับเป็นอุทธรณ์เฉพาะอุทธรณ์ข้อสุดท้ายอุทธรณ์ข้ออื่นนอกจากนี้เป็นอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์
โจทก์เห็นว่า ประเด็นเรื่องค่าคอมมิชชั่น (ค่านายหน้า) ที่โจทก์มีสิทธิจะได้รับจากยอดขายของพนักงานทั้งหมดนั้น การวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางเป็นการวินิจฉัยคลาดเคลื่อนและแตกต่างจากพยานหลักฐานในสำนวน เนื่องจากโจทก์ได้นำสืบเอกสารสนับสนุนข้อกล่าวอ้างของโจทก์ไว้อย่างชัดเจน แต่ศาลแรงงานกลางไม่ได้นำมาวินิจฉัยและกลับอ้างว่าโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานใด ๆ สนับสนุนข้อกล่าวอ้างของโจทก์ เป็นการใช้ดุลพินิจที่ขัดและไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับอุทธรณ์คำพิพากษาประเด็นแรกของโจทก์ด้วย
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 68)
คดีของศาลแรงงานกลางหมายเลขแดงที่ 4623/2529 นี้ศาลแรงงานกลางสั่งให้พิจารณาพิพากษารวมกับอีกคดีหนึ่งโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน130,500.- บาท และทองคำหนัก 1 บาท หรือมิฉะนั้นให้จ่ายเงินแทนเท่ากับราคาทองคำในท้องตลาด
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 64)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 65)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางที่วินิจฉัยว่า ข้อนำสืบของจำเลยมีน้ำหนักน่าเชื่อกว่าข้อนำสืบของโจทก์ ฟังได้ว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับค่าคอมมิชชั่น (ค่านายหน้า) จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ข้อ 2(1) ของโจทก์จึงชอบแล้วให้ยกคำร้อง
