คำสั่งคำร้องที่ 1384/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสี่ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลไม่รับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและฎีกาของจำเลยทั้งสี่ เป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสี่ จำเลยทั้งสี่เห็นว่า ฎีกาข้อ 2.ง ที่ว่า การวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 คลาดเคลื่อนจากพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนและพยานโจทก์ รับฟังลงโทษจำเลยทั้งสี่ไม่ได้นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสี่ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 79) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)(3)(7)(8) วรรคสามจำคุกคนละ 2 ปี คำรับสารภาพชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 1 ปี 4 เดือน ให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันคืนหรือใช้ราคาเครื่องปั้ม น้ำราคา 2,600 บาท แก่ผู้เสียหาย ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน จำเลยทั้งสี่ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 76,75) จำเลยทั้งสี่จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 79)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสี่โดยอาศัยข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้จำเลยทั้งสี่ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่งจำเลยทั้งสี่ฎีกาว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนจากพยานหลักฐานในสำนวน และพยานโจทก์รับฟังลงโทษจำเลยทั้งสี่ไม่ได้นั้น เป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสี่โต้แย้งจะให้รับฟังข้อเท็จจริงตามที่จำเลยยกขึ้นต่อสู้ ส่วนการรับฟังพยานหลักฐานว่าเพียงใดจึงจะพอฟัง ลงโทษจำเลยได้หรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล ฎีกาของจำเลยทั้งสี่ เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของ ศาลล่างทั้งสอง จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้าม ตามบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา ของจำเลยทั้งสี่ชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share