แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยฎีกาดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์ซึ่งเป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงและคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ2,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นลงโทษจำคุก 2 เดือน แต่ไม่รอการลงโทษ แม้การพิพากษาแก้โทษจำคุกที่รอการลงโทษเป็นไม่รอการลงโทษจะเป็นการแก้มากก็ตาม แต่ย่อมถือได้ว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต่างก็พิพากษาลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ฎีกาของจำเลยซึ่งเป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายและคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน ปรับ 2,500 บาทโทษจำคุกรอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นจำคุก 2 เดือน โดยไม่ปรับและไม่รอการลงโทษ เป็นการแก้ไขมากโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 33 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4,5,6,10,12,15 ฯลฯ จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 เดือน ปรับ 2,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก2 เดือน ไม่ปรับ ไม่รอการลงโทษและไม่คุมประพฤติจำเลยนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาโดยไม่ลงลายมือชื่อผู้ฎีกา ผู้เรียงและผู้พิมพ์ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 24)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 31)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย3 เดือน ปรับ 2,500 บาท โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 2 เดือนไม่ปรับ ไม่รอการลงโทษ จึงเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยไม่เกินกำหนดที่ว่ามานี้ ย่อมห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงการที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ เป็นการคัดค้านดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์ ย่อมเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง