คำสั่งคำร้องที่ 1332/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า พิเคราะห์แล้วคดีมีทุนทรัพย์ชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ที่แก้ไขแล้ว ฎีกาจำเลยที่ 1 เป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 1 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 ในประเด็นที่ว่า สัญญากู้ยืมเงินที่โจทก์นำมาใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลในคดีนี้ เป็นสัญญาที่ขัดต่อกฎหมายหรือไม่ เป็นการฎีกาในปัญหา ข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 1ไว้พิจารณา พิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องหรือไม่
จำเลยที่ 1 เสียค่าคำร้องมา 200 บาท(อันดับ 54 แผ่นที่ 4)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1ชำระเงิน 17,000 บาทแก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 25 มกราคม 2531 จนกว่าจะชำระเสร็จ แต่จำนวนดอกเบี้ยคำนวณถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน 4,462 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 50)
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าเป็นกรณีจำเลยที่ 1 อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา จึงมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายใน กำหนด 7 วันแต่จำเลยที่ 1 ไม่นำเงินดังกล่าวมาวางศาล แต่อย่างใด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ส่งสำนวนไปศาลฎีกา พิจารณาสั่งต่อไป (อันดับ 54,57)

คำสั่ง
จำเลยที่ 1 มิได้นำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234ที่แก้ไขแล้ว จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1

Share