คำสั่งคำร้องที่ 132/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่ารับฎีกาของจำเลยที่ 1 สำเนาให้โจทก์แก้สำหรับจำเลยที่ 2 ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงไม่รับจำเลยที่ 2 เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 2เป็นเวลา 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำคุกจำเลยที่ 2เป็นเวลา 1 ปี จึงไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 เพราะคำว่า”ไม่เกินหนึ่งปี” ในมาตราดังกล่าวย่อมไม่เท่ากับหนึ่งปี โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 228)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358,360 และ 83
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 360 วางโทษจำคุก 6 เดือน ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 ประกอบมาตรา 83 จำคุกคนละ 1 ปีนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2ดังกล่าว (อันดับ 222)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 225)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2มีกำหนด 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2มีกำหนด 1 ปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกจำเลยที่ 2 ฎีกาว่ามิได้กระทำผิดขอให้ยกฟ้อง จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share