คำสั่งคำร้องที่ 1315/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกาคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกา หากศาลฎีกามีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณา และต่อไปหากมีคำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่ จำเลยมีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 70)
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาและไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี แล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 14 ต่อปีจากต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2530 จนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระหนี้เสร็จแก่โจทก์ และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความให้1,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2531 ศาลชั้นต้นสั่งว่าให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียม ซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์คำสั่งเสียก่อน และเสียค่าขึ้นศาลจำนวน 200 บาทเสร็จแล้วจึงจะมีคำสั่งในเรื่องอุทธรณ์ต่อไป (อันดับ 26)
ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2531 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าครบกำหนดอุทธรณ์ 8 มกราคม 2531 จำเลยไม่นำเงินค่าขึ้นศาลมาวางภายในกำหนดอุทธรณ์ถือว่าไม่ติดใจอุทธรณ์ จึงไม่รับอุทธรณ์คืนเงินค่าขึ้นศาลทั้งหมด (อันดับ 29)
หลังจากนั้นวันที่ 12 มกราคม 2531 จำเลยทั้งสองยื่นคำแถลงขอวางเงินค่าขึ้นศาล ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์แล้ว และจำเลยขอวางเงินเมื่อพ้นกำหนดอุทธรณ์แล้วจึงให้ยกคำแถลงและให้คืนเงินค่าขึ้นศาลทั้งหมด
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จำเลยทั้งสองต้องเสียค่าขึ้นศาล 200 บาท ตามตาราง 1 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (2) ข้อ (ก) เมื่อจำเลยทั้งสองไม่นำค่าขึ้นศาลจำนวนดังกล่าวมาวางศาลภายในกำหนดอุทธรณ์ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองชอบแล้วจึงให้ยกคำร้อง
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 59)
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว พร้อมกับยื่นคำร้องนี้(อันดับ 64)

คำสั่ง
ศาลฎีกาสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสองแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสั่งคำร้องนี้ ค่าคำร้องเป็นพับ

Share