แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องหนึ่งข้อหาเป็นประโยชน์แก่จำเลย ส่วนข้อหาอื่นที่จำเลยฎีกาศาลอุทธรณ์ยืน ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่าฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย การที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยในข้อหาทำสุราและข้อหามีสุราไว้ในความครอบครองคราวเดียวกันเช่นนี้ไม่ชอบ แม้จำเลยจะทำสุรากลั่นและสุราแช่และมีทั้งสุรากลั่นและสุราแช่ก็เป็นความผิดกรรมเดียวหาใช่เป็นความผิดคนละกรรมไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 90 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานทำสุรากลั่นโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 5,30 จำคุก2 เดือน ฐานทำสุราแช่โดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติสุราพ.ศ. 2493 มาตรา 5,30 ปรับ 200 บาท ฐานมีสุรากลั่นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 5,32 ปรับ 1,000 บาท ฐานมีสุราแช่ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 5,32 ปรับ 1,000 บาท และฐานมีภาชนะเครื่องกลั่นสำหรับทำสุราไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 5,30 จำคุก 2 เดือน เรียงกระทงลงโทษ รวมจำคุก 4 เดือน และปรับ 2,200 บาทกับให้บวกโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2809/2529 ของศาลนี้ที่รอไว้6 เดือนเข้าในคดีนี้ด้วย รวมเป็นจำคุก 10 เดือน และปรับ 2,200 บาทศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะข้อหาฐานทำสุรากลั่นโดยมิได้รับอนุญาต ลงโทษจำเลยข้อหาฐานมีสุรากลั่น ทำสุราแช่ มีสุราแช่และมีภาชนะเครื่องกลั่นสำหรับทำสุราไว้ในครอบครอง เมื่อลดโทษและบวกโทษแล้ว คงจำคุก 8 เดือนและปรับ 2,200 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 85)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 88)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าฎีกาของจำเลยข้อ 2.2 ที่ว่าแม้จำเลยจะทำสุรากลั่นและสุราแช่ และมีทั้งสุรากลั่นและสุราแช่ ก็เป็นความผิดกรรมเดียว จะเรียงกระทงลงโทษจำเลยไม่ได้นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ให้รับฎีกาข้อ 2.2 ของจำเลยไว้พิจารณา ให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์แก้ภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันรับ