แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นการโต้แย้งข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 1 อันจะมีผลเป็น ข้อแพ้ชนะ ดังนั้นจึงเป็นฎีกาที่มีทุนทรัพย์ตามผลของคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จำเลยวางเงินค่าขึ้นศาลไว้เพียง 200 บาท จึงไม่ชอบให้จำเลยดำเนินการวางค่าขึ้นศาลเพิ่มภายใน 7 วัน นับแต่วันนี้
จำเลยเห็นว่า คดีนี้จำเลยฎีกาขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1มีคำสั่งหรือคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดีต่อไป การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้วางค่าขึ้นศาลเพิ่ม จึงเป็นการไม่ถูกต้องและไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอศาลได้โปรดมีคำสั่งหรือคำพิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้น และให้ศาลชั้นต้นรับฎีกาของจำเลยส่งศาลฎีกาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ จำเลยชำระเงินจำนวน 11,310,085.53 บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 16.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 8,015,729.88 บาท นับถัดจากวันฟ้อง เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ มิฉะนั้นให้นำยึดทรัพย์จำนอง ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แทน หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ ให้นำยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยออกขายทอดตลาดนำเงิน มาชำระหนี้จนครบ
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน จำนวน 6,273,025.76 บาทแก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18.5 ต่อปี โดยคิดทบต้นจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2528 ต่อจากนั้น ให้คิดดอกเบี้ยอัตราเดียวกันไม่ทบต้นของต้นเงินยอดวันที่ 10 ธันวาคม 2528 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2529 ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 17 ต่อปี นับแต่วันที่ 2 มกราคม 2529 ถึงวันที่ 4 มีนาคม 2529 ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 5 มีนาคม 2529 ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2533ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 16 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 มีนาคม 2533ถึงวันที่ 1 เมษายน 2533 และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 16.5 ปี นับแต่วันที่ 2 เมษายน 2533 จนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้หักเงินที่จำเลยชำระไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2528จำนวน 6,000 บาท วันที่ 10 มกราคม 2529 จำนวน 6,000 บาท วันที่ 31 มกราคม 2529 จำนวน 6,000 บาท วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2529 จำนวน 7,725 บาท วันที่ 25 มีนาคม 2529 จำนวน 6,000 บาท วันที่ 30 เมษายน 2529 จำนวน 6,000 บาท และวันที่ 30 พฤษภาคม 2529 จำนวน 6,000 บาท ออกจากยอดหนี้ที่ จำเลยจะต้องชำระดังกล่าวด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 114)
ก่อนสิ้นระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จำเลยยื่นคำร้องนี้ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณา (อันดับ 116)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยมีประเด็นที่ศาลฎีกา จะต้อง วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ แม้จำเลย จะอ้างในฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า บางข้อที่จำเลยอ้างมาจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ไม่รับวินิจฉัยให้ ซึ่งเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็เป็นส่วนหนึ่งของการวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าว จึงเป็นฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง และให้จำเลยเสียค่าขึ้นศาล ที่ยังขาดอยู่ให้ครบถ้วนภายใน 7 วัน นับถัดจากวันฟ้องคำสั่ง ศาลฎีกานี้
ให้คืนค่าคำร้องอุทธรณ์คำสั่งส่วนที่เกิน 40 บาทให้จำเลย