คำสั่งคำร้องที่ 1273/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่างและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี ต้องห้ามไม่ให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ฎีกาของจำเลยล้วนแต่เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้นจึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า จำเลยได้ฎีกาเกี่ยวกับประเด็นที่ศาลอุทธรณ์นำข้อเท็จจริงที่โจทก์ไม่ได้สืบพยานมาพิจารณาลงโทษจำเลย ประกอบกับศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัยประเด็นเกี่ยวกับคดีว่าโจทก์สืบพยานได้ตามฟ้องอย่างไรหรือไม่ ซึ่งจำเลยได้ว่ากล่าวในอุทธรณ์ของจำเลยมาแล้ว โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 78)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 จำคุก 3 ปี สำหรับข้อหาลักทรัพย์ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 75)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 78)

คำสั่ง
ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์สืบพยานไม่ได้ตามฟ้อง จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกสำนวนนั้นเห็นว่าการจะรับฟังพยานหลักฐานใดเป็นการเพียงพอหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล ฎีกาของจำเลยเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share