แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้าม มิให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง ที่แก้ไขแล้ว ไม่รับฎีกาจำเลย คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา ให้จำเลยทั้งหมด จำเลยเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคสอง โปรดมีคำสั่งรับฎีกาและคำร้องขอทุเลา การบังคับของจำเลยด้วย หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 110) ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับ ให้จำเลยรื้อถอนบ้าน(ไม่มีเลขที่) ตามฟ้อง และขนย้ายบริวารพร้อมทั้งทรัพย์สิน ของจำเลยทั้งหมดออกไปจากที่ดิน และไม่ให้ปิดบังหน้าที่ดินของโจทก์ น.ส.3 ก. เลขที่ 26 ตำบลสะพลีอำเภอปะทิวจังหวัดชุมพร และห้ามจำเลยและบริวารเข้ามาเกี่ยวข้องอีกต่อไป ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 200 บาท นับแต่เดือนมกราคม 2533 จนกว่าจะรื้อถอนบ้านและขนย้าย ทรัพย์สินออกไปจากที่ดินของโจทก์ จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา และสั่งคำร้องว่า เมื่อศาลสั่ง ไม่รับฎีกา คำร้องขอทุเลาการบังคับย่อมตกไปในตัว ยกคำร้อง(อันดับ 104,105) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ โดยมิได้นำเงินมาชำระตาม คำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 107)
คำสั่ง จำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกัน มาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 ก่อนจึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ไม่รับฎีกาของจำเลย