คำสั่งคำร้องที่ 1256/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ฎีกาของโจทก์ต้องห้ามมิให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 จึงไม่รับโจทก์เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยอาศัยข้อกฎหมายแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โดยอาศัยข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงโจทก์ย่อมฎีกาได้ เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในคดีซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริงเพียงอย่างเดียวมิได้กล่าวถึงข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ศาลจังหวัดยโสธรแจ้งให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ทราบคำร้องโดยวิธีประกาศหน้าศาล (อันดับ 123) สำหรับจำเลยที่ 5 ถึงที่ 9 ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 125)
โจทก์ฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,84,86,91,157,161,177,179,180,181,200
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์บางข้อหาเกี่ยวกับจำเลยบางคนไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) ส่วนข้อหาความผิดอื่นนอกจากที่วินิจฉัยว่าฟ้องไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวนั้นคดีโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 113)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 116)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 มาตรา 13ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share