แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาสำหรับค่าเสียหายที่จะต้องนำมาวางเป็นหลักประกันในการทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลฎีกา ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 เห็นว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นยังคลาดเคลื่อนอยู่เนื่องจากจำเลยที่ 1 เป็นคนยากจนและได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถามาโดยตลอด จำเลยที่ 1 ไม่มีทรัพย์สินที่จะนำมาวางเป็นหลักประกันในการทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา นอกจากนี้จำเลยที่ 1 ก็ไม่มีญาติพี่น้องที่จะให้ความช่วยเหลือได้ ประกอบกับคดีของจำเลยที่ 1 มีทางที่จะชนะ หากจำเลยที่ 1 ต้องออกไปจากทรัพย์ที่พิพาทในระหว่างฎีกา ก็จะทำให้ได้รับความเสียหายมากเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โปรดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลชั้นต้นและอนุญาตให้จำเลยที่ 1 ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาสำหรับค่าเสียหายที่จะต้องนำมาวางเป็นหลักประกันในการทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 189)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยทั้งสองและบริวารออกไปจากทรัพย์สินพิพาท ห้ามเข้าเกี่ยวข้องต่อไป และให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน 8,000 บาท กับให้ใช้ค่าเสียหายนับแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2525 เป็นต้นไป ในอัตราเดือนละ3,500 บาท จนกว่าจำเลยทั้งสองและบริวารจะออกไปจากทรัพย์สินพิพาท
จำเลยที่ 1 ฎีกา โดยได้รับอนุญาตให้ฎีกาอย่างคนอนาถาพร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งว่า ถ้าจำเลยที่ 1 หาประกันสำหรับค่าเสียหายที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นับถึงวันทราบคำสั่งนี้ และค่าเสียหายต่อไปอีก เป็นเวลา 1 ปี มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกามิฉะนั้นให้ยกคำร้อง (อันดับ 161,161 แผ่นที่ 7,180)
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาสำหรับค่าเสียหายที่จะต้องนำมาวางเป็นหลักประกันในการทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องดังกล่าว (อันดับ 182)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 185)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วยังไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งของศาลฎีกาที่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้โดยให้จำเลยที่ 1 หาประกันสำหรับค่าเสียหายมาวางศาล คำสั่งของศาลชั้นต้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ