แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับจำเลยที่ 1 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 72)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ลงโทษจำคุก 3 ปี ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 แต่ให้ขังจำเลยที่ 2 ไว้ในระหว่างอุทธรณ์ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรก นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 71)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 72)
คำสั่ง
ฎีกาของจำเลยที่ 1 อ้างว่าโจทก์ไม่มีพยานที่จะแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานรับของโจร สมควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานอันเป็นข้อเท็จจริง ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง