แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ยื่นฎีกาไว้ บัดนี้โจทก์ไม่ประสงค์จะฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์อีกต่อไป จึงขอถอนฎีกาของโจทก์เสียโปรดอนุญาตและมีคำสั่งให้คืนค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาด้วย
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 196 แผ่นที่ 4)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ จำนวน289,369.50 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงิน165,222 บาทนับแต่วันที่ 14 มีนาคม 2522 และในต้นเงิน122,107.50 บาท นับแต่วันที่ 16 มีนาคม 2522 เป็นต้นไปจนถึงวันฟ้อง ทั้งนี้โดยให้นำเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 180,070บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี ในต้นเงิน 100,000 บาทนับแต่วันที่ 13 มีนาคม 2522 และในต้นเงิน 80,700 บาท นับแต่วันที่ 29 มีนาคม 2522 เป็นต้นไปจนถึงวันฟ้องมาหักหนี้ที่จำเลยจะต้องชำระแก่โจทก์ เมื่อหักแล้วเหลือเงินเท่าใด ให้จำเลยชำระส่วนที่เหลือพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และเมื่อจำเลยชำระเงินเสร็จแล้ว ให้โจทก์โอนหุ้นของบริษัทมาบุญครองพืชและไซโลจำกัด จำนวน 300 หุ้น ที่จำเลยสั่งซื้อ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2522และหุ้นของบริษัทธนาคารศรีนคร จำกัด จำนวน 200 หุ้น ที่จำเลยสั่งซื้อเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2522 แก่จำเลย ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน 328,032 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงิน 165,222บาท นับแต่วันที่ 14 มีนาคม 2522 และในต้นเงิน 162,810 บาทนับแต่วันที่ 16 มีนาคม 2522 จนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา (อันดับ 174)
จำเลยฎีกาแต่เพิกเฉยไม่นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 177)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าวโดยทนายโจทก์ซึ่งมีอำนาจถอนฟ้องลงชื่อในคำร้อง (อันดับ 192,154)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้โจทก์ถอนฎีกาได้ คืนค่าขึ้นศาลให้โจทก์ 3 ใน 4 จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา