แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ทนายจำเลยได้ยื่นฎีกา จำเลยประสงค์ขอถอนฎีกาเพื่อจำเลยจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ โปรดอนุญาตและออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุด โดยถือเอาวันที่ 19 พฤศจิกายน 2530 เป็นวันที่คดีถึงที่สุดให้จำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 71,148,160เรียงกระทงลงโทษ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268จำคุก3 ปี ความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกฯ มาตรา 71,148ปรับ1,000 บาท มาตรา 160 จำคุก 1 เดือน รวม 3 กระทง จำคุก 3 ปี1 เดือน และปรับ 1,000 บาท คืนใบอนุญาตขับรถให้กับเจ้าของริบเอกสารราชการปลอมและป้ายทะเบียนของกลาง ส่วนคำขอให้คืนรถยนต์ของกลางไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นเจ้าของแท้จริง คำขอส่วนนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้คืนรถยนต์ของกลางแก่เจ้าของนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 71)
ทนายจำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง (อันดับ 73)
คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 74 แผ่นที่ 2)
คำสั่ง
จำเลยยื่นคำร้องขอถอนฎีกา พออนุโลมได้ว่าเป็นการขอถอนอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับฎีกา จึงอนุญาต แต่ที่จำเลยขอให้ออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุดโดยให้ถือเอาวันที่ 19 พฤศจิกายน 2530ซึ่งเป็นวันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์จำเลยฟังเป็นวันคดีถึงที่สุดนั้น ไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติให้กระทำได้ จึงให้ยกคำร้องส่วนนี้