แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องฎีกา มีเหตุผลซึ่งศาลฎีกาอาจยกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์และคำสั่งของศาลชั้นต้น และมีทางชนะคดีโจทก์ได้โปรดมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับคดีไว้ก่อน และหากศาลฎีกาเห็นเป็นการสมควรเพื่อความเสียหายอันอาจจะมีขึ้นผู้ร้องยินดีที่จะวางเงินจำนวน1,200 บาทต่อเดือนซึ่งสูงกว่าจำนวนเงินค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องเอาจากจำเลยตามฟ้อง โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ทนายโจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 59)
กรณีเป็นชั้นบังคับคดี
สืบเนื่องจากโจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยจำเลยตกลงยินยอมรื้อถอนบ้านเลขที่ 623/2 และ 623/3 ออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 3895 ตำบลมักกะสัน(ประแจจีน)อำเภอดุสิต(พญาไท) กรุงเทพ ฯลฯและตกลงจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์ดังกล่าว ฯลฯ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น
ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่า จำเลยผิดนัด ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาขอให้ออกหมายบังคับคดี ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อดำเนินการรื้อถอนบ้านเลขที่ 623/2 และ 623/3 ออกไปจากที่ดินของโจทก์ ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดี ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำขอของโจทก์แล้ว (อันดับ 14)
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า ผู้ร้องได้ทำสัญญาเช่าบ้านเลขที่ 623/2 กับนายยงอรัญชราธร โดยจำเลยซึ่งเป็นบิดาของนายยงเป็นผู้ทำสัญญาเช่าแทนเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2519 มีกำหนด 1 ปี เมื่อสิ้นกำหนดเวลาเช่าแล้ว ผู้ร้องยังคงครอบครองบ้านดังกล่าวโดยนายยงไม่ทักท้วงและเก็บค่าเช่ากับผู้ร้องตลอดมาถือได้ว่าผู้ร้องและนายยงได้ทำสัญญาใหม่ต่อไปไม่มีกำหนดเวลาเมื่อโจทก์รับโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 3895 พร้อมบ้านเลขที่ดังกล่าวจากนายยง โจทก์จึงต้องรับโอนไปทั้งสิทธิและหน้าที่ เมื่อโจทก์และนายยงไม่เคยบอกเลิกการเช่าต่อผู้ร้องผู้ร้องจึงยังมีสิทธิตามสัญญาเช่า และมิใช่บริวารของจำเลย ขอให้มีคำสั่งงดการบังคับคดี
ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 57,56)
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้งดการรื้อถอนบ้านพิพาทไว้ในระหว่างอุทธรณ์ (อันดับ 45)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ไม่มีเหตุสมควรให้ทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกายกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ