แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา คดีมีทางชนะ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 165 แผ่นที่ 2)คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่พิพากษาให้จำเลยโอนขายที่ดินโฉนดเลขที่ 17419ตำบลพระปฐมเจดีย์ บางส่วน เนื้อที่ 300 ตารางวา ในราคาตารางวาละ350 บาท ตามแผนที่ท้ายฟ้องแก่โจทก์ จำเลยยื่นคำแถลงฉบับลงวันที่27 ตุลาคม 2530 ว่าไม่สามารถปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาได้ เพราะคำพิพากษาบังคับให้จำเลยโอนขายที่ดินโฉนดเลขที่ 17419 ตำบลพระปฐมเจดีย์ ทั้ง ๆ ที่ที่ดินดังกล่าวมิใช่เป็นของจำเลยจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดในตำบลสนามจันทร์ และคำพิพากษาให้จำเลยโอนขายที่ดินตามรูปแผนที่ท้ายฟ้องเป็นจำนวน 300 ตารางวาแต่ที่ดินโฉนดเลขที่ 17419 ตำบลสนามจันทร์ มีเนื้อที่ประมาณ92 ตารางวาเท่านั้น หากโจทก์ยอมรับจำเลยก็ยินดีโอนขายให้ แต่ถ้าโจทก์ต้องการที่ดินเนื้อที่ 300 ตารางวาตามโฉนดเลขที่ 17419 ตำบลพระปฐมเจดีย์ ตามที่ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยโอนขายให้แก่โจทก์ก็เป็นการพ้นวิสัยที่จำเลยจะปฏิบัติได้ โจทก์ได้แถลงตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 21 ธันวาคม 2530 รับว่ามีปัญหาในการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาคือโจทก์ฟ้องขอให้โอนขายที่ดิน 2 โฉนดแต่ศาลฎีกาพิพากษาให้โอนขายเพียงโฉนดเดียว หากบังคับตามรูปแผนที่ท้ายฟ้องแล้วจะได้เนื้อที่ไม่ครบ 300 ตารางวาตามคำพิพากษาศาลฎีกาและจะได้เนื้อที่ไม่ตรงตามรูปแผนที่ท้ายฟ้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ขายที่ดินตามรูปแผนที่พิพาทในโฉนดเลขที่ 17419 ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ในเส้นสีแดงดำเนื้อที่รอบ ๆ บ้านโจทก์ จำนวน 299 ตารางวาให้กับโจทก์ในราคาตารางวาละ 350 บาท ให้จำเลยปฏิบัติตามคำบังคับภายใน 30 วัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 161,160)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีไม่มีเหตุสมควรที่จะให้ทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ