คำสั่งคำร้องที่ 1016/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เนื่องจากคดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 จึงไม่รับฎีกา คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด โจทก์เห็นว่า คดีนี้ราคาที่ดินพิพาทตามราคาประเมินของ สำนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีเป็นเงิน 1,740,000 บาท โจทก์ ได้เสียค่าขึ้นศาลโดยถือราคาประเมินดังกล่าวเป็นจำนวนทุนทรัพย์ ที่พิพาท ฎีกาโจทก์จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของและมีสิทธิครอบครองที่ดินตามใบ ภ.บ.ท. 5 เนื้อที่ 58 ไร่ จำเลยเข้ามาปลูกบ้านในที่ดินของโจทก์เนื้อที่ 40 ตารางวา ขอให้ศาลบังคับจำเลยและบริวารออกจากที่ดินพิพาทและรื้อถอนบ้านและสิ่งปลูกสร้าง ออกจากที่ดินดังกล่าว กับให้ชำระค่าเสียหายเดือนละ 500 บาทจำเลยยื่นคำให้การว่า ที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์แต่เป็นที่ดินซึ่งจำเลยซื้อมาแล้วให้บุคคลอื่นดูแลแทน ต่อมาจำเลยได้ปลูกบ้าน ในที่ดินดังกล่าว ในวันนัดชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยให้การต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลย จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ ให้มีหนังสือสอบถาม ราคาประเมินที่ดินสำนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีมีหนังสือ แจ้งราคาประเมินที่ดินต่อศาล เจ้าหน้าที่ศาลได้มีรายงาน เจ้าหน้าที่ว่า คิดค่าขึ้นศาลตามที่ดินพิพาทเนื้อที่ 40 ตารางวา เป็นทุนทรัพย์ 3,000 บาท แต่โจทก์ยืนยันชำระค่าขึ้นศาลคิดจาก ที่ดินทั้งแปลง เป็นทุนทรัพย์ 1,740,000 บาท และโจทก์ชำระ ค่าขึ้นศาลในจำนวนดังกล่าว ต่อมาก่อนอ่านคำพิพากษา ศาลชั้นต้น สอบถามโจทก์ โจทก์แถลงว่าคดีนี้พิพาทเฉพาะที่ดินเนื้อที่ 40 ตารางวา ศาลชั้นต้นจึงให้คืนค่าขึ้นศาลซึ่งชำระเกินแก่โจทก์ และโจทก์ได้รับเงินดังกล่าวคืนแล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 152) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 154)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว โจทก์แถลงรับตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 7 ตุลาคม 2536 ของศาลชั้นต้นแล้วว่า ที่ดินพิพาท มีเนื้อที่ 40 ตารางวา อันมีราคา 3,000 บาท ในขณะที่โจทก์อุทธรณ์และฎีกา โจทก์ก็เสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์จำนวนนี้คดีนี้จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ 3,000 บาท หาใช่ 1,740,000 บาทไม่จึงเป็นคดีต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นไม่รับชอบแล้ว ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ

Share