คำวินิจฉัยที่ 88/2563

แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ

ย่อสั้น

คดีที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสองซึ่งเป็นเอกชนยื่นฟ้องกรมทรัพยากรน้ำ ที่ ๑ สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค ๓ ที่ ๒ องค์การบริหารส่วนตำบลนางัว ที่ ๓ บริษัท ส. ที่ ๔ ผู้ถูกฟ้องคดี อ้างว่า ผู้ฟ้องคดีที่ ๑ เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดิน น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๑๙๓๗ ผู้ฟ้องคดีที่ ๒ เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดิน น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๑๙๓๙ และเลขที่ ๑๙๔๐ ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ไถขุดที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้งสอง เพื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ำตามโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองแข้ใหญ่โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ฟ้องคดีทั้งสอง ซึ่งผู้ฟ้องคดีทั้งสองไม่เคยอุทิศที่ดินดังกล่าวให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้ที่ดินตาม น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๑๙๓๗ เป็นของผู้ฟ้องคดีที่ ๑ และที่ดินตาม น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๑๙๓๙ และเลขที่ ๑๙๔๐ เป็นของผู้ฟ้องคดีที่ ๒ ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ปรับสภาพที่ดินทั้งสามแปลงให้กลับสู่สภาพเดิม หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าทดแทนพร้อมดอกเบี้ย ส่วนผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ให้การว่า ที่ดินพิพาทมีสภาพเป็นน้ำที่เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งน้ำแข้ใหญ่ และที่ดินริมแหล่งน้ำหนองแข้ใหญ่ซึ่งเป็นทำเลเลี้ยงสัตว์ จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกันและสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน การดำเนินการโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองแข้ใหญ่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ ให้การว่า สภาพพื้นที่ก่อนการก่อสร้างเป็นหนองน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ ไม่ได้ก่อสร้างรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้งสอง เห็นว่า แม้กรมทรัพยากรน้ำ ที่ ๑ สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค ๓ ที่ ๒ องค์การบริหารส่วนตำบลนางัว ที่ ๓ ผู้ถูกฟ้องคดี จะเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ แต่เหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ ผู้ฟ้องคดีทั้งสองกล่าวอ้างว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำตามโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองแข้ใหญ่รุกล้ำที่ดิน (น.ส. ๓ ก.) ของผู้ฟ้องคดีทั้งสอง โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และที่ ๔ ให้การทำนองเดียวกันว่า ที่ดินบริเวณที่สร้างอ่างเก็บน้ำมีสภาพเป็นหนองน้ำสาธารณะซึ่งเป็นทำเลเลี้ยงสัตว์จึงเป็นที่สาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ร่วมกัน การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน การที่จะวินิจฉัยว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่กระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดีทั้งสองหรือไม่ เป็นเพียงผลของการวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินพิพาทระหว่างผู้ฟ้องคดีทั้งสองกับผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ ซึ่งหากศาลวินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้ฟ้องคดีทั้งสอง การที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่กระทำการตามฟ้องก็เป็นการกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดีทั้งสอง แต่หากที่ดินพิพาทเป็นหนองน้ำสาธารณะซึ่งเป็นทำเลเลี้ยงสัตว์ จะเป็นผลให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่มีอำนาจก่อสร้างอ่างเก็บน้ำได้โดยไม่เป็นละเมิดต่อผู้ฟ้องคดีทั้งสอง ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าการที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสองใช้สิทธิฟ้องคดีนี้ ก็เพื่อขอให้ศาลรับรองคุ้มครองสิทธิในที่ดินของตนเป็นสำคัญ ข้อพิพาทในคดีนี้จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม

Share