คำวินิจฉัยที่ 67/2557

แหล่งที่มา : ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ

ย่อสั้น

คดีที่เอกชนยื่นฟ้องหน่วยงานทางปกครองว่า ผู้ถูกฟ้องคดีมีหน้าที่ในการดูแล บำรุง รักษาต้นไม้ในบริเวณริมคลองให้อยู่ในสภาพแข็งแรงไม่ทรุดโทรม หรือก่อให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของบุคคลทั่วไป แต่ผู้ถูกฟ้องคดีกลับงดเว้นหรือปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ เมื่อมีลมพัดแรงต้นมะพร้าวซึ่งมีสภาพแก่และทรุดโทรมได้หักโค่นข้ามคลองลงมาทับรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยกับผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย เห็นว่า ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างว่าผู้ถูกฟ้องคดีละเลยไม่ดูต้นมะพร้าวที่อยู่ในความรับผิดชอบให้มีสภาพแข็งแรงไม่ทรุดโทรมเมื่อมีลมพัดแรงจึงหักโค่นทับรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยนั้น เหตุละเมิดหาได้เกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายซึ่งเป็นการใช้อำนาจโดยตรงของผู้ถูกฟ้องคดีแต่อย่างใด ข้อพิพาทในคดีนี้จึงมิใช่คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย หรือจากกฎ คำสั่งทางปกครอง หรือคำสั่งอื่น จึงมิใช่คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครอง อันจะอยู่ในอำนาจของศาลปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ คดีนี้จึงอยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม

ย่อยาว

(สำเนา)

คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
ที่ ๖๗/๒๕๕๗

วันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๗

เรื่อง เขตอำนาจศาลเกี่ยวกับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓)

ศาลปกครองกลาง
ระหว่าง
ศาลแขวงธนบุรี

การส่งเรื่องต่อคณะกรรมการ
ศาลปกครองกลางโดยสำนักงานศาลปกครองส่งเรื่องให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลวินิจฉัยชี้ขาดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง (๓) ซึ่งเป็นกรณีคู่ความฝ่ายที่ถูกฟ้องโต้แย้งเขตอำนาจศาลที่รับฟ้องคดีและศาลที่ส่งความเห็นและศาลที่รับความเห็นมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องเขตอำนาจศาลในคดีนั้น

ข้อเท็จจริงในคดี
เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๕ บริษัทเทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดี ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร ผู้ถูกฟ้องคดี ต่อศาลปกครองกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ ๑๓๓๙/๒๕๕๕ ความว่า ผู้ถูกฟ้องคดีมีหน้าที่ในการดูแล บำรุง รักษาต้นไม้ในบริเวณริมคลองเลียบถนนกำนันแม้น ใกล้ซอยกำนันแม้น ๑๗ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ให้อยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรงมิให้มีสภาพทรุดโทรมเพื่อไม่ให้ต้นไม้ล้มทับหรือก่อให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของบุคคลทั่วไป แต่ผู้ถูกฟ้องคดีกลับงดเว้นหรือปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่เป็นเหตุให้เมื่อมีลมพัดแรงต้นมะพร้าวซึ่งมีสภาพแก่ทรุดโทรมและไม่แข็งแรงได้หักโค่นข้ามคลองลงมาทับรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ หมายเลขทะเบียน ถย ๙๖๕๓ กรุงเทพมหานคร ของนายสรายุทธ์ แสนใจ ผู้เอาประกันภัยกับผู้ฟ้องคดี ได้รับความเสียหายรวมเป็นเงิน ๓๑,๐๑๓.๓๘ บาท ผู้ฟ้องคดีได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยแล้ว จึงเข้ารับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิด ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย
ผู้ถูกฟ้องคดีให้การว่า รถยนต์คันเกิดเหตุจอดอยู่ฝั่งพื้นที่เขตภาษีเจริญ เอกชนทำการถมดินริมตลิ่งรุกล้ำเข้าไปในคลองสาธารณะริมตลิ่งฝั่งภาษีเจริญเพื่อใช้เป็นที่จอดรถยนต์ ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้ปลูกต้นมะพร้าวหรือจัดให้มีขึ้นจึงอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของผู้ถูกฟ้องคดี ในวันเกิดเหตุมีพายุลมแรงทำให้ต้นมะพร้าวหักโค่นทับรถยนต์ของผู้เอาประกันภัย จึงเป็นเหตุสุดวิสัยจากธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมหรือป้องกันมิให้เกิดความเสียหายได้ ผู้เอาประกันภัยย่อมเล็งเห็นได้ว่าหากมีพายุลมแรงต้นมะพร้าวอาจหักโค่นทับรถยนต์คันพิพาทได้จึงเป็นความประมาทเลินเล่อของผู้เอาประกันภัยเอง ผู้ฟ้องคดีในฐานะผู้รับประกันภัยจึงไม่ต้องรับผิดในเหตุวินาศภัยและไม่มีสิทธิไล่เบี้ย
ผู้ถูกฟ้องคดียื่นคำร้องโต้แย้งเขตอำนาจศาลว่า ข้อพิพาทในคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
ศาลแขวงธนบุรีพิจารณาแล้วเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) บัญญัติจำกัดประเภทแห่งคดีที่เกิดจากการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครอง โดยมิได้มุ่งหมายให้ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งในคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ธรรมดา หรือการกระทำละเมิดที่ไม่ได้เกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย ซึ่งในคดีนี้ผู้ฟ้องคดีอ้างว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้ถูกฟ้องคดีที่ไม่ระมัดระวังตัดแต่งกิ่งไม้หรือรื้อถอนต้นไม้ ซึ่งมีสภาพทรุดโทรม เพื่อมิให้ต้นไม้บริเวณริมถนนล้มทับหรือก่อให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของบุคคลอื่น อันถือได้ว่าเป็นการกระทำทางกายภาพ กรณีพิพาทคดีนี้จึงมิได้เกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายหรือจากกฎ คำสั่งทางปกครอง หรือคำสั่งอื่นหรือจากการละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควรแต่อย่างใด คดีนี้จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
ศาลปกครองกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ถูกฟ้องคดีเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นตามมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๒๘ จึงเป็นหน่วยงานทางปกครองตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มีอำนาจหน้าที่บำรุงรักษาหรือค้ำยันต้นไม้ที่เกิดขึ้นบริเวณริมถนนหรือริมคลองสาธารณะให้มั่นคงแข็งแรงเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชนผู้สัญจรบริเวณดังกล่าว ดังนั้นคลองสาธารณะซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของผู้ถูกฟ้องคดีและบริเวณริมตลิ่งคลองรวมถึงต้นไม้ที่เกิดขึ้นดังกล่าว จึงเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของผู้ถูกฟ้องคดีในการดูแลรักษาตามกฎหมาย เมื่อผู้ฟ้องคดีในฐานะผู้รับช่วงสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย ฟ้องว่า ผู้ถูกฟ้องคดีงดเว้นหรือปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ไม่ดูแลรักษาต้นมะพร้าวที่อยู่ในเขตพื้นที่เขตจอมทอง มีสภาพแก่และทรุดโทรมตั้งอยู่ริมฝั่งคลองสาธารณะเลียบถนนกำนันแม้น เมื่อมีลมพัดแรงต้นมะพร้าวจึงหักโค่นข้ามคลองลงมาทับรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยกับผู้ฟ้องคดี ที่จอดอยู่อีกฝั่งของคลองสาธารณะเลียบถนนกำนันแม้นได้รับความเสียหาย ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดี คดีนี้จึงเป็นคดีพิพาทระหว่างเอกชนกับผู้ถูกฟ้องคดีซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครอง และเป็นกรณีที่ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่าผู้ถูกฟ้องคดีละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมายในการดูแลรักษาหรือค้ำยันต้นไม้ที่เกิดขึ้นบริเวณริมถนนหรือริมคลองสาธารณะให้มั่นคงแข็งแรง มิให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินหรือประชาชนเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย กรณีจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองอันเกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง

คำวินิจฉัย
ปัญหาที่ต้องพิจารณา คดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมหรือศาลปกครอง
คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีที่เอกชนยื่นฟ้องหน่วยงานทางปกครองว่า ผู้ถูกฟ้องคดีมีหน้าที่ในการดูแล บำรุง รักษาต้นไม้ในบริเวณริมคลองให้อยู่ในสภาพแข็งแรงไม่ทรุดโทรม เพื่อไม่ให้ต้นไม้ล้มทับหรือก่อให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของบุคคลทั่วไป แต่ผู้ถูกฟ้องคดีกลับงดเว้นหรือปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ เป็นเหตุให้เมื่อมีลมพัดแรงต้นมะพร้าวซึ่งมีสภาพแก่และทรุดโทรมได้หักโค่นข้ามคลองลงมาทับรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยกับผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย ผู้ฟ้องคดีได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยแล้ว จึงเข้ารับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิด ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย ผู้ถูกฟ้องคดีให้การว่า รถยนต์คันเกิดเหตุจอดในที่ซึ่งเอกชนทำการถมดินริมตลิ่งรุกล้ำเข้าไปในคลองสาธารณะ ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้เป็นผู้ปลูกต้นมะพร้าวจึงอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบ ในวันเกิดเหตุมีพายุลมแรงทำให้ต้นมะพร้าวหักโค่นทับรถยนต์ จึงเป็นเหตุสุดวิสัยจากธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมหรือป้องกันมิให้เกิดความเสียหายได้ ผู้เอาประกันภัยย่อมเล็งเห็นได้ว่าต้นมะพร้าวอาจหักโค่นทับรถยนต์ได้ จึงเป็นความประมาทเลินเล่อของผู้เอาประกันภัย ผู้ฟ้องคดีในฐานะผู้รับประกันภัยจึงไม่ต้องรับผิดในเหตุวินาศภัยและไม่มีสิทธิไล่เบี้ย เห็นว่า ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างว่าผู้ถูกฟ้องคดีละเลยไม่ดูต้นมะพร้าวที่อยู่ในความรับผิดชอบให้มีสภาพแข็งแรงไม่ทรุดโทรมเมื่อมีลมพัดแรงจึงหักโค่นทับรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยนั้น เหตุละเมิดหาได้เกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายซึ่งเป็นการใช้อำนาจโดยตรงของผู้ถูกฟ้องคดีแต่อย่างใด ข้อพิพาทในคดีนี้จึงมิใช่คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย หรือจากกฎ คำสั่งทางปกครอง หรือคำสั่งอื่น และไม่ได้เกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร จึงมิใช่คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครอง อันจะอยู่ในอำนาจของศาลปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ คดีนี้จึงอยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม
จึงวินิจฉัยชี้ขาดว่า คดีระหว่างบริษัทเทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดี กรุงเทพมหานคร ผู้ถูกฟ้องคดี อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม

(ลงชื่อ) ดิเรก อิงคนินันท์ (ลงชื่อ) สุวัฒน์ วรรธนะหทัย
(นายดิเรก อิงคนินันท์) (นายสุวัฒน์ วรรธนะหทัย)
ประธานศาลฎีกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลยุติธรรม

(ลงชื่อ) หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล (ลงชื่อ) จรัญ หัตถกรรม
(นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล) (นายจรัญ หัตถกรรม)
ประธานศาลปกครองสูงสุด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลปกครอง

(ลงชื่อ) พลเรือโท กฤษฎา เจริญพานิช (ลงชื่อ) พลตรี พัฒนพงษ์ เกิดอุดม
(กฤษฎา เจริญพานิช) (พัฒนพงษ์ เกิดอุดม)
หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลทหาร

(ลงชื่อ) จิระ บุญพจนสุนทร
(นายจิระ บุญพจนสุนทร)
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

Share