แหล่งที่มา : ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
ย่อสั้น
คดีที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสองฟ้องสำนักงานที่ดินจังหวัดหนองคาย ที่ ๑ องค์การบริหารส่วนตำบลพระบาทนาสิงห์ ที่ ๒ ผู้ถูกฟ้องคดี ซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ บุกรุกเข้ามาทำถนนทางเข้าออกสำนักงานของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ในที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้งสองซึ่งไม่ใช่ที่ดินแปลงที่ผู้ฟ้องคดีที่ ๒ อุทิศให้ ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เพิกถอนแบบการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) และเพิกถอนที่ดินของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ แปลงพิพาทที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ใช้เป็นทางเข้าสำนักงานของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และให้ผู้ฟ้องคดีได้สิทธิครอบครองในที่ดินแปลงพิพาท องค์การบริหารส่วนตำบลพระบาทนาสิงห์ ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ ๒ ให้การว่า ได้รับการอุทิศที่ดินดังกล่าวจากผู้ฟ้องคดีที่ ๒ ตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ จึงไม่อาจทราบได้ว่าที่ดินดังกล่าวตรงกับที่บริจาคหรือไม่ แต่ผู้ฟ้องคดีที่ ๒ ได้แสดงเจตนาสละการครอบครองให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ตรงกับแผนที่สังเขปที่ผู้ฟ้องคดีที่ ๒ ได้แสดงเจตนาไว้ ในระหว่างก่อสร้างอาคารที่ทำการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ บนที่ดินบริจาคดังกล่าว ผู้ฟ้องคดีทั้งสองไม่โต้แย้งหรือดำเนินการทางศาลแต่อย่างใด จึงถือว่าผู้ฟ้องคดีที่ ๒ อุทิศที่ดินดังกล่าวเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยปริยาย ดังนี้ ประเด็นข้อพิพาทที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้จึงมีเพียงว่า ที่ดินที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้ก่อสร้างทางเข้าออกสำนักงานของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ นั้น เป็นที่ดินของผู้ฟ้องคดีที่ ๑ หรือเป็นที่ดินที่ผู้ฟ้องคดีที่ ๒ อุทิศให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ทั้งเมื่อพิจารณาคำขอของผู้ฟ้องคดีที่ ๑ ที่ขอให้เพิกถอนที่ดินแปลงพิพาทที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ใช้เป็นทางเข้าออกสำนักงานของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และให้ผู้ฟ้องคดีที่ ๑ ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาท ก็พอเข้าใจเจตนาของผู้ฟ้องคดีที่ ๑ ในการฟ้องคดีนี้ว่า ประสงค์จะให้ศาลพิพากษารับรองสิทธิในที่ดินของตน โดยไม่ปรากฏว่าผู้ฟ้องคดีที่ ๑ มีคำขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ยุติการก่อสร้าง หรือชดใช้ค่าเสียหาย อันจะถือเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิด เมื่อคดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ที่ดินพิพาทเป็นของผู้ฟ้องคดีที่ ๑ หรือองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน ที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม