แหล่งที่มา : ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
ย่อสั้น
คดีที่โจทก์ซึ่งเป็นส่วนราชการในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยื่นฟ้องเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเหมือง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่มีคำสั่งสอบสวนเปรียบเทียบตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๖๐ เพื่อให้มีการออกโฉนดที่ดินให้แก่เอกชน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ถึงที่ ๖ โดยอาศัยหลักฐาน น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๔๖๕ ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เนื่องจากกระบวนการรังวัดสอบเขตที่ดินและกระบวนการออกโฉนดที่ดินเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะที่ดินพิพาทอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติและไม่สามารถออกโฉนดที่ดินได้ แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ กลับสอบสวนเปรียบเทียบเพื่อให้มีการออกโฉนดที่ดินให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ถึงที่ ๖ อีกทั้งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ถึงที่ ๖ ก็มิได้มีการครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน ที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน นอกจากนี้ที่ดินตามหลักฐาน ส.ค. ๑ เลขที่ ๑๓๘ ที่ใช้เป็นหลักฐานในการออก น.ส. ๓ เลขที่ ๑๓๘ และ น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๔๖๕ ตามลำดับ มีพื้นที่ไม่ถูกต้องตรงกับพื้นที่ที่ขอรังวัดออกโฉนด ขอให้เพิกถอนคำสั่งสอบสวนเปรียบเทียบดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ให้การโดยสรุปว่า คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ที่ดินตาม น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๔๖๕ มิได้เป็นที่สงวนหวงห้าม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ถึงที่ ๖ ให้การโดยสรุปว่า ที่ดินตาม น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๔๖๕ เป็นที่ดินที่มีการครอบครองทำประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายมาก่อนวันที่ทางราชการกำหนดให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติและมีการออกเอกสารสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย การขอออกโฉนดที่ดินจาก น.ส. ๓ ก. ดังกล่าวได้ดำเนินการถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายแล้ว ขอให้ยกฟ้อง จึงเป็นกรณีที่คู่กรณียังโต้แย้งกันเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน ดังนั้น การที่ศาลจะพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เพิกถอนคำสั่งออกโฉนดที่ดินแก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ถึงที่ ๖ กับให้เพิกถอน น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๔๖๕ ตามคำขอของผู้ฟ้องคดีได้นั้น จำต้องพิจารณาให้ได้ความเสียก่อนว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือเป็นของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ถึงที่ ๖ เป็นสำคัญ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน ซึ่งอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม