คำสั่งศาลฎีกาที่ 6833/2552

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ฎีกาของจำเลยทั้งสองที่ว่า จำเลยทั้งสองมิได้อุทธรณ์ในเนื้อหาของคำพิพากษาจึงไม่จำต้องวางเงินค่าธรรมเนียมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 และจำเลยทั้งสองเสียค่าขึ้นศาลในกรณีเป็นอุทธรณ์คำสั่งในคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้จึงไม่จำต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ในศาลชั้นต้นนั้นเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายซึ่งศาลล่างได้วินิจฉัยไว้ถูกต้องแล้วและไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยของศาลล่าง ฎีกาของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นสาระอันควรแก่การพิจารณา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 1,211,062.56 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 14 ต่อปี ของต้นเงิน 700,450 บาท หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาด หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้บังคับแก่ทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์จนครบถ้วน
ในวันนัดจำเลยทั้งสองให้การแก้ข้อหาแห่งคดีและสืบพยานโจทก์ จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต และถือว่าจำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงิน 1,211,062.56 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 14 ต่อปี ของต้นเงิน 700,450 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 2 ธันวาคม 2547) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนอง คือ ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 5746 ตำบลสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา พร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์ หากได้เงินไม่พอชำระให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองบังคับชำระหนี้โจทก์จนครบ กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองเลื่อนคดีศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่ง จำเลยทั้งสองมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 โดยจะต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลแล้วนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้น เมื่อจำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติดังกล่าว คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสองจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า “ฎีกาของจำเลยทั้งสองที่ว่าจำเลยทั้งสองมิได้อุทธรณ์ในเนื้อหาของคำพิพากษาจึงไม่จำต้องวางเงินค่าธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 และจำเลยทั้งสองเสียค่าขึ้นศาลในกรณีเป็นอุทธรณ์คำสั่งในคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้จึงไม่จำต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้นนั้น เห็นว่า เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายซึ่งศาลล่างได้วินิจฉัยไว้ถูกต้องแล้วและไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยของศาลล่าง ฎีกาของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นสาระอันควรแก่การพิจารณา ศาลฎีกาไม่รับคดีไว้พิจารณาพิพากษา”
จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ให้คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดในชั้นฎีกาแก่จำเลยทั้งสอง ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกานอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ

Share