แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ให้ยกคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติม เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา จนกว่าศาลอุทธรณ์จะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226 (1) ประกอบมาตรา 247
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๓,๐๗๑,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๔๐ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องไม่ให้เกิน ๔๙,๐๔๙.๓๗ บาท จำเลยอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติม ระหว่างศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิจารณาคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมจำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติม
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยแก้ไขคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติม แล้วมีคำสั่งให้ยก คำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติม
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค ๑ ดังกล่าวได้หรือไม่ เห็นว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค ๑ ที่ให้ยกคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาจนกว่าศาลอุทธรณ์ภาค ๑ จะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๖ (๑) ประกอบมาตรา ๒๔๗ แม้ศาลชั้นต้นรับฎีกาของจำเลยมา ศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลย