คำสั่งคำร้องที่ 894/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย ลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ว่าจำเลยไม่ได้กระทำโดยประมาทและการที่ศาลรับฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไรแล้ววินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยประมาทหรือไม่ จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 81)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291,91 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43,78,157,160 พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 6,59 ความผิดฐานประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายจำคุก 3 ปี ความผิดฐานหลบหนีไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที จำคุก 2 เดือนความผิดฐานใช้รถที่ไม่ได้จดทะเบียน และเสียภาษีประจำปีในทางเดินรถโดยไม่ได้รับอนุญาตปรับ 1,200 บาท ความผิดฐานใช้รถที่ไม่ได้จดทะเบียน และเสียภาษีประจำปีในทางเดินรถโดยไม่ได้รับอนุญาตจำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 600 บาท รวมจำคุก3 ปี 2 เดือน และปรับ 600 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำคุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 มีกำหนด 2 ปี เมื่อรวมกับโทษ ที่ศาลชั้นต้นกำหนดเป็นจำคุก 2 ปี 2 เดือน ปรับ 600 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 80)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 81)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะโทษที่ลงแก่จำเลย ไม่ได้แก้บทมาตราด้วย เป็นการแก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา218 วรรคแรก จำเลยฎีกาว่า การกระทำของจำเลยประมาท หรือไม่ เป็นการฎีกาในดุลพินิจในการฟังข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share