คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6374/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 125 วรรคหนึ่ง กำหนดให้นายจ้างที่ไม่พอในคำสั่งพนักงาน ตรวจแรงงานสามารถนำคดีไปสู่ศาลได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง โดยมาตรา 125 วรรคสาม กำหนดให้ นายจ้างที่นำคดีไปสู่ศาลต้องวางเงินต่อศาลตามจำนวนที่ถึงกำหนดจ่ายตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานจึงจะฟ้องคดีได้ เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างไม่พอใจคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานที่สั่งตามมาตรา 124 แล้วโจทก์เป็นฝ่ายนำคดีมาฟ้อง ขอให้ศาลแรงงานเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว โจทก์ก็ต้องนำเงินที่ถึงกำหนดจ่ายตามคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงานมาวางศาล เมื่อโจทก์ไม่นำเงินดังกล่าวมาวางต่อศาลแรงงานภายในเวลาที่ศาลแรงงานกำหนด โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากจำเลยในฐานะพนักงานตรวจแรงงานได้ออกคำสั่งให้โจทก์ทั้งสองจ่ายค่าชดเชย ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า (ที่ถูกคือสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า) และค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่ลูกจ้างยังไม่ได้ใช้สิทธิให้แก่ลูกจ้าง พร้อมเงินเพิ่มร้อยละสิบห้าของเงินค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปีและค่าชดเชย ที่ค้างจ่ายทุกระยะเวลาเจ็ดวันในเงินค้างชำระจนกว่าจะชำระเสร็จ โจทก์ทั้งสองยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแรงงานกลาง เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยทั้งสองฉบับดังกล่าว และโจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานกลาง อ้างว่าจำเลยไม่มีอำนาจสั่งให้โจทก์ทั้งสองรับผิดจ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างของบริษัทสุภัทร์ธนากรเปเปอร์มิล จำกัด ขออนุญาตไม่วางเงินต่อศาล
ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่อนุญาต ยกคำร้องและให้โจทก์ทั้งสองวางเงินต่อศาลภายใน ๗ วัน แล้วจึงจะพิจารณาสั่งคำฟ้องของโจทก์ทั้งสองต่อไป
เมื่อครบกำหนด ๗ วันตามคำสั่งของศาลแรงงานกลาง โจทก์ทั้งสองไม่นำเงินมาวางศาล ศาลแรงงานกลางจึงมีคำสั่งว่า “โจทก์ไม่วางเงินภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด รับคำฟ้อง สำเนาให้จำเลย โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างไม่วางเงินต่อศาลตามจำนวนที่ต้องจ่ายแก่ลูกจ้างตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน จึงไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง”
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองว่า โจทก์ทั้งสอง ต้องวางเงินตามจำนวนที่ต้องจ่ายแก่ลูกจ้างตามคำสั่งทั้งสองฉบับของจำเลยต่อศาลหรือไม่ และเมื่อโจทก์ทั้งสองไม่วางเงินดังกล่าวต่อศาลตามกำหนดเวลาที่ศาลแรงงานกลางกำหนด โจทก์ทั้งสองจะมีอำนาจฟ้องคดีนี้หรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๒๕ วรรคหนึ่ง กำหนดให้นายจ้างที่ไม่พอใจคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานสามารถนำคดีไปสู่ศาลได้ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง โดยมาตรา ๑๒๕ วรรคสาม กำหนดให้นายจ้างที่นำคดี ไปสู่ศาลต้องวางเงินต่อศาลตามจำนวนที่ถึงกำหนดจ่ายตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน จึงจะฟ้องคดีได้ ดังนั้น เมื่อโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นนายจ้างไม่พอใจคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานจังหวัดอ่างทองที่ ๑๐/๒๕๔๓ และที่ ๑๑/๒๕๔๓ ของจำเลยซึ่งเป็นพนักงานตรวจแรงงานที่สั่งตามมาตรา ๑๒๔ แล้วเป็นฝ่ายนำคดีมาฟ้องจำเลยต่อศาลแรงงานเพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว โจทก์ทั้งสองก็จะต้องนำเงินที่ถึงกำหนดจ่าวตามคำสั่งของจำเลยมาวางศาลจึงจะฟ้องคดีได้ เมื่อโจทก์ทั้งสองไม่นำเงินดังกล่าวมาวางต่อศาลแรงงานกลางภายในเวลาที่ศาลแรงงานกลางกำหนด โจทก์ทั้งสอง จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องนั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน .

Share