แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่โจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองโดยระบุจำนวนเงินที่จำเลยจะต้องชำระคลาดเคลื่อนไป จำเลยก็มีสิทธิที่จะโต้แย้งจำนวนเงินดังกล่าวได้ หาเป็นเหตุให้การบอกกล่าวบังคับจำนองไม่ชอบไม่
จำเลยจำนองทรัพย์สินเป็นประกันหนี้ของบุคคลอื่นซึ่งหนี้ดังกล่าวขาดอายุความ โจทก์ผู้รับจำนองจะบังคับจำนองแม้เมื่อหนี้ที่ประกันนั้นขาดอายุความแล้วก็ได้ แต่จะบังคับเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระในการจำนองเกินกว่า 5 ปี ไม่ได้ โจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยที่ค้างชำระก่อนฟ้องย้อนหลังไปมีกำหนด 5 ปี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน ๘๓๖,๔๙๓.๑๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จากต้นเงิน ๘๐๐,๐๐๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระให้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๑๔๒๑๘ ตำบลดอกไม้ (บางแก้ว) อำเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร นำออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์ หากไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยนำออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์จนครบถ้วน
จำเลยให้การว่า จำเลยจำนองที่ดินแก่โจทก์เพื่อเป็นประกันหนี้ค่าสินค้าของห้างเพาเวอร์สแมชินเนอรี่ เมื่อหนี้ค่าสินค้าขาดอายุความแล้ว จำเลยซึ่งค้ำประกันย่อมหลุดพ้นความรับผิดด้วย สัญญาจำนองไม่ได้ตกลงไว้ให้คิดดอกเบี้ย โจทก์จึงคิดดอกเบี้ยได้ไม่เกินอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี และคิดดอกเบี้ยได้ไม่เกิน ๕ ปี จำเลยไม่เคยทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้โจทก์ตามฟ้อง และจำเลยไม่เคยได้รับหนังสือบอกกล่าวให้ชำระหนี้และบังคับจำนองจากโจทก์ หนังสือบอกกล่าวให้ชำระหนี้และบังคับจำนองตามเอกสารท้ายฟ้องมิใช่หนังสือบอกกล่าวให้ชำระหนี้และบังคับจำนองในคดีนี้ เนื่องจากจำเลยไม่เคยจำนองที่ดินในวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๒๒ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๓๖๓,๖๐๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๒๙ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๑๔๒๑๘ ตำบลดอกไม้ (บางแก้ว) อำเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร นำออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์ หากไม่พอชำระหนี้เงินยังขาดจำนวนอยู่เท่าใด จำเลยไม่ต้องรับผิดในเงินนั้น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๓๖๓,๖๐๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๒๙ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ เฉพาะดอกเบี้ยก่อนวันฟ้องให้จำเลยชำระไม่เกิน ๕ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติได้ว่า เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๒๘ จำเลยได้จำนองที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๑๔๒๑๘ ตำบลดอกไม้ (บางแก้ว) อำเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร แก่โจทก์ในวงเงิน ๓๖๓,๖๐๕ บาท เพื่อเป็นประกันหนี้การซื้อสินค้าของห้างพาวเวอร์สแมชินเนอรี่ กำหนดไถ่ถอนจำนองวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๒๙ จำเลยและห้างพาวเวอร์สแมชินเนอรี่ไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ ต่อมาวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๓๘ จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ตกลงชำระค่าสินค้าพร้อมดอกเบี้ยและค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน ๘๐๐,๐๐๐ บาท ภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๓๘ เมื่อถึงกำหนดชำระเงินตามหนังสือรับสภาพหนี้ จำเลยไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ โจทก์ได้มีหนังสือทวงถามและบอกกล่าวบังคับจำนองแล้ว แต่จำเลยเพิกเฉย
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า โจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองโดยชอบหรือไม่ จำเลยฎีกาว่า โจทก์พิมพ์วันที่ของสัญญาจำนองผิดไปและขอบังคับชำระหนี้จากวันที่พิมพ์สัญญาผิดคือบังคับตั้งแต่วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๒๒ คิดถึงวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๓๙ เป็นเงิน ๙๒๔,๘๘๘ บาท ความจริงจำเลยทำสัญญาจำนองเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๒๘ โจทก์ทวงถามเกินไปถึง ๖ ปี ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ไม่ถูกต้อง การบอกกล่าวบังคับจำนองไม่ถูกต้อง โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องบังคับจำนองนั้น เห็นว่า การที่โจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองโดยระบุจำนวนเงินที่จำเลยจะต้องชำระคลาดเคลื่อนไปนั้น จำเลยก็มีสิทธิที่จะโต้แย้งจำนวนเงินดังกล่าวได้ หาเป็นเหตุให้การบอกกล่าวบังคับจำนองไม่ชอบไม่
ส่วนปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ศาลอุทธรณ์คิดดอกเบี้ยให้โจทก์ก่อนวันฟ้องไม่เกิน ๕ ปี ถูกต้องหรือไม่นั้น โจทก์ฎีกาว่า จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้โจทก์ไว้เป็นกรณีที่จำเลยสละประโยชน์แห่งอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๙๓/๒๔ จำเลยจึงไม่อาจอ้างอายุความมาเป็นข้อปฏิเสธความรับผิดในเรื่องดอกเบี้ยค้างชำระได้ จำเลยต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ เห็นว่า คดีนี้จำเลยจำนองทรัพย์สินเป็นประกันหนี้ของบุคคลอื่นซึ่งหนี้ดังกล่าวขาดอายุความ เป็นกรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗๔๕ ซึ่งบัญญัติว่า ผู้รับจำนองจะบังคับจำนองแม้เมื่อหนี้ที่ประกันนั้นขาดอายุความแล้วก็ได้ แต่จะบังคับเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระในการจำนองเกินกว่าห้าปีไม่ได้ โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยที่ค้างชำระก่อนฟ้องย้อนหลังไปมีกำหนด ๕ ปี
พิพากษายืน.