คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การปล้นได้กระทำไปโดยจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 2 คน มีอาวุธปืนติดตัว จำเลยที่ 2 ผู้ร่วมกระทำการปล้นด้วยแม้จะไม่ปรากฏว่ามีอาวุธใดติดตัวไปก็ต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง แต่เฉพาะจำเลยที่ 1 ผู้เดียวที่กระทำการปล้นโดยมีและใช้อาวุธปืนจี้เจ้าทรัพย์ การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงต้องด้วยมาตรา 340 ตรี ต้องระวางโทษหนักกว่าโทษตามมาตรา 340 วรรคสองอีกกึ่งหนึ่ง ส่วนจำเลยที่ 2 หาต้องระวางโทษตามนี้ด้วยไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์นายพิมพาและนางคำมี สุภารมย์ โดยมีปืนเป็นอาวุธ และใช้อาวุธปืนจี้ขู่เข็ญเจ้าทรัพย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๐,๓๔๐ ตรี, ๘๓ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๔ ข้อ ๑๔,๑๕ กับให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน ๒๑๘ บาทแก่เจ้าทรัพย์
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายร่วมกับพวกทำการปล้นทรัพย์จริง พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรคสอง , ๓๔๐ ตรี, ๘๓ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ข้อ ๑๔,๑๕ แต่จำเลยทั้งสองมีอายุ ๑๘ ปี ลดมาตราส่วนโทษให้ตามมาตรา ๗๖ คนละ ๑ ใน ๓ คงจำคุกจำเลยคนละ ๑๒ ปี และให้จำเลยทั้งสองคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน ๒๑๘ บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายร่วมกระทำการปล้นทรัพย์ผู้เสียหายจริง แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรคสอง, ๓๔๐ ตรี, ๘๓ ตามที่แก้ไขและเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ข้อ ๑๔,๑๕ นั้น ศาลฎีกาเห็นว่ายังคลาดเคลื่อนอยู่ เพราะประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรคสอง ตามที่แก้ไขแล้วนั้นบัญญัติว่า “ถ้าในการปล้นทรัพย์ ผู้กระทำแม้แต่คนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษ ฯลฯ” ส่วนมาตรา ๓๔๐ ตรีที่เพิ่มเติมใหม่นั้นบัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา ๓๓๙ มาตรา ๓๓๙ ทวิ มาตรา ๓๔๐ หรือมาตรา ๓๔๐ ทวิ โดยแต่งเครื่องแบบทหารหรือตำรวจ หรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตำรวจ หรือโดยมีหรือใช้อาวุธปืน ฯลฯ……….ต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ กึ่งหนึ่ง” เมื่อได้ความว่า การปล้นรายนี้ได้กระทำไปโดยจำเลยที่ ๑ กับพวกอีก ๒ คนมีอาวุธปืนติดตัว จำเลยที่ ๒ ผู้ร่วมกระทำการปล้นด้วย แม้จะไม่ปรากฏว่ามีอาวุธใดติดตัวไป ก็ต้องมีความผิดตามมาตรา ๓๔๐ วรรคสอง แต่เฉพาะจำเลยที่ ๑ ผู้เดียวที่กระทำการปล้นและโดยมีและใช้อาวุธปืนจี้เจ้าทรัพย์ การกระทำของจำเลยที่ ๑ จึงต้องด้วยมาตรา ๓๔๐ ตรี ต้องระวางโทษหนักกว่าโทษตามมาตรา ๓๔๐ วรรคสองอีกกึ่งหนึ่ง ส่วนจำเลยที่ ๒ หาต้องระวางโทษตามนี้ด้วยไม่
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ ตรี ตามที่เพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ข้อ ๑๕ ส่วนจำเลยที่ ๒ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรคสองตามที่แก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ข้อ ๑๔ จำเลยทั้งสองมีอายุ ๑๘ ปี ลดมาตราส่วนโทษให้ตามมาตรา ๗๖ คนละหนึ่งในสาม แล้วให้จำคุกจำเลยที่ ๑ สิบสองปี จำคุกจำเลยที่ ๒ แปดปี นอกจากที่แก้นี้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share